
เมื่อเช้าตื่นเร็วกว่าปกติ ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสาม เพราะวันนี้มีลงงานวิ่ง Samsung 10K Thailand Championship 2018 เป็นงานวิ่งงานแรกตั้งแต่ที่เริ่มวิ่งมาสามสี่ปี
ตื่นปั๊บก็เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกมากินข้าวเหนียวหมูทอดตุนไว้นิดนึง กล้วยน้ำว้าอีกใบ น้ำเต้าหู้อีกแก้ว (ตอนแรกกลัวไม่พอ แต่พอกินไปแล้วเกิดเอ๊ะ มันเยอะไปมั้ยวะ? กูจะจุกมั้ยเนี่ย) แล้วอาบน้ำแต่งตัว ใช้เวลาไม่นานเพราะเสื้อกางเกง รองเท้าถุงเท้าเตรียมรอไว้แล้ว บิบก็ติดเอาไว้เรียบร้อย วันนี้เอารองเท้า Newton ไปใช้ จากความประทับใจที่ใส่วิ่งสิบโลทำเวลาทะลุ ๖๐ นาทีลงมาได้ ด้วยความหวังว่าวันนี้จะทำได้อีก สาธุ 🙏
ขับรถมาจอดที่สยามสแควร์ เลือกที่นี่จากหลาย ๆ ที่ที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ เพราะคิดว่าน่าจะมีที่จอดชัวร์ ไม่อยากไปเสี่ยงที่อื่น เกิดพลาดขึ้นมาจะเสียเวลา จอดเสร็จเดินมาสนามศุภชลาศัย เดินกันมากลุ่มใหญ่ อุ่นใจว่าไม่หลงแน่นอนเพราะคนมาวิ่งงานเดียวกันทั้งนั้น ถามว่า รู้ได้ไง? ใครจะไม่รู้ก็แต่งตัวเหมือนกันหมด ใส่เสื้องานกันมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่มาวิ่งงานนี้แล้วจะไปวิ่งที่ไหน
งานนี้ปล่อยตัวตีห้า กว่าจะผ่านจุดตรวจมาได้ก็เกือบตีสี่ครึ่งแล้ว ไหนยังจะต้องเข้าห้องน้ำ ต้องยืดเหยียดด้วย ก็เลยต้องรีบจ้ำ ทีแรกตั้งใจจะไปเข้าห้องน้ำที่เป็นรถห้องน้ำติดแอร์ที่ทางผู้จัดโพสต์ไว้ในเพจ แต่เข้ามาได้ซักหน่อยเจอคนยืนรอเข้าห้องน้ำกันอยู่เป็นห้องน้ำรวม คิวไม่ยาว ก็เลยเอาที่นี่ล่ะวะ ซึ่งคิดถูกจริง ๆ เพราะหลังจากนั้นเจอห้องน้ำแต่ละที่คิวยาวทั้งนั้นเลย
โผล่จากห้องน้ำมาเจอน้องหลง ที่ไม่เจอตัวเป็น ๆ กันมาสิบกว่าปีแล้ว เจอกันแต่ใน fb วันนี้ได้มาเจอกันหน้าห้องน้ำ ช่างเป็นจังหวะดีเสียนี่กระไร 5555
ทีนี้ก็รีบจ้ำไปบล็อกตัวเอง ก็ต้องแยกจากคุณภรรยาล่ะ เพราะเราอยู่บล็อก B คุณภรรยาอยู่บล็อก C เดี๋ยววิ่งเสร็จค่อยมาเจอกัน เดินไปถึงบล็อก โอย ใกล้ปล่อยตัวแล้วยังไม่ได้ยืดเหยียดเลย ทำแม่มตรงนี้ล่ะ ใครจะมองยังไงช่างมัน ถ้าไม่ทำก็กลัววิ่งแล้วเกิดเจ็บขึ้นมามันจะไม่คุ้มกัน
จากจุดที่ยืนมองไปที่จุดปล่อยตัว โห ไกลว่ะ ประเมินในใจแล้วว่า ชิ_หายแน่กูงานนี้ เป้าที่ตั้งไว้เห็นท่าจะเหลว เพราะก่อนมาตั้งเป้าไว้สามข้อ ข้อแรก จบไม่เจ็บ (ก็มาวิ่งให้แข็งแรง วิ่งแล้วเจ็บก็ผิดวัตถุประสงค์สิ ใช่มะ) ข้อสอง เวลาต่ำกว่า ๖๐ นาที อันนี้แหละที่คิดว่าน่าจะเหลว เพราะจากจุดที่ยืนอยู่กว่าจะไปถึงจุดสตาร์ตก็น่าจะนาทีกว่าแล้ว ต้องไปเร่งเอาคืนงี้ จะไหวเหรอ
ส่วนเป้าข้อสาม อยากติดอันดับ ๑,๐๐๐ คนแรกของผู้ชาย ข้อนี้เพื่อที่ว่าเผื่อปีหน้าจะลงจะได้ไม่ต้องไปแย่งกันสมัครอีก เพราะเขาให้โควต้าสมัครได้เลย
พอถึงเวลาปล่อยตัวก็จริงอย่างที่คิด กว่าจะไปถึงจุดสตาร์ตปาเข้าไปสองนาทีกว่า นี่เวลาหายไปเฉย ๆ เลย แล้วสองนาทีนี่ยากเลยนะ เลยเปลี่ยนใจ กูไม่เอา gun time ก็ได้วะ ขอ chip time ต่ำกว่า ๖๐ นาทีแทนแล้วกัน
พอเริ่มวิ่งก็มาติดคอขวดตรงประตูทางออกสนามศุภฯ นิดนึง ออกมาได้ก็ โฮ้ยยยยย คนทำไมมันเยอะหยั่งงี้ ปกติวิ่งคนเดียวในหมู่บ้านจะก้าวยาวก้าวสั้นไปซ้ายไปขวาไม่มีปัญหาไม่มีใครบัง นี่ต้องคอยหาจังหวะเสียบแซงขึ้นไป เก็บไปเรื่อย ๆ แต่ก็พยายามไม่เร่ง เพราะวางแผนไว้ว่าจะวิ่งประมาณเพซ ๖ บวกลบ ๕ วิไปซักเจ็ดโล (ถ้าเร่งตั้งแต่แรกกลัวหมดก่อนแล้วมันจะไม่ได้ตามเป้า) หลังจากนั้นค่อยเร่ง วิ่งไปก็คอยดูเพซไป กลัวหลุดไปเยอะตอนหลังจะเร่งไม่ไหว
วิ่งออกจากสนามศุภฯ เลี้ยวซ้าย แล้วมาเลี้ยวเข้าถนนบรรทัดทองวิ่ง ๆ อยู่มองไปข้างหน้าเห็นคนใส่ Escalante Boston 2018 ยังคิดว่าเดี๋ยวจะไปเล่าให้คุณภรรยาฟังว่าเจอคนใส่รองเท้ารุ่นเดียวกันด้วยนะ มองสูงขึ้นอีกหน่อย อ้าว ผู้หญิงด้วยว่ะ พอมองดี ๆ อ้าว เฮ้ย นี่ภรรยาเราตัวจริงเสียงจริง วิ่งยังไงมานำหน้าเราได้วะ ก็วิ่งไปเทียบให้รู้ตัวแล้วก็เร่งแซงมาก่อน
จากบรรทัดทองทะลุมาพระรามสี่ วิ่งมาอีกนิดเจอจุดรับน้ำจุดแรก วิ่งต่อไปจนถึงแยกอังรีดูนังต์ ซึ่งต้องเลี้ยวซ้ายไปจุดกลับตัว แต่มองไปข้างหน้าเห็นชุดที่วิ่งนำหน้ากลับตัวกันมาแล้วเยอะเลย ใจฝ่อไปนิดนึง กลับตัวเสร็จวิ่งมาถึงแยกศาลาแดงผ่านหน้าสวนลุมพินี ดูนาฬิกา ระยะสี่โลปลาย ๆ เวลา ๒๙ นาทีกว่า เอาวะ เวลาใช้ได้ น่าจะได้ต่ำ ๖๐ นาที
ผ่านสวนลุมฯ เลี้ยวเข้าถนนวิทยุ ตอนแรกที่เห็นเส้นทางวิ่งว่ามีวิ่งเข้าถนนวิทยุด้วยนี่ดีใจเลยนะ เพราะส่วนตัวชอบเส้นนี้มาก ต้นไม้ใหญ่แม่มเยอะ แล้วฟีลเขียวครึ้มดี แต่วันนี้วิ่งมามันยังมืดไง แล้วก็ต้องดูคนหลบคน ไม่ได้ดูวิวดูอะไรอย่างที่คิดเลย พอผ่านหน้าตึกสินธร ตลาดหุ้นเก่า ได้ระยะเจ็ดโล คิดในใจว่า เดี๋ยวพอพ้นวิทยุเลี้ยวเข้าเพลินจิตกูจะสับล่ะนะ พอเลยมาหน่อยผ่านโรงแรมพลาซ่า แอทธินี ของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บริษัท เอาวะ เร่งแม่มตั้งแต่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวไม่ทัน
ออกวิทยุมาเข้าเพลินจิต สับยาวมาแยกราชประสงค์ บอกเลยว่า Newton นี่พอได้สปีดได้จังหวะแล้ววิ่งสนุกจริง ๆ แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่วิ่งบนพื้นถนนลาดยาง ก่อนหน้านี้วิ่งอยู่แต่ในหมู่บ้านเป็นถนนคอนกรีต พอมาวิ่งถนนลาดยางแล้ว เฮ้ย พื้นมันนุ่มกว่าเว้ย
กำลังเร่งดี ๆ มาถึงแยกราชประสงค์ก็ต้องเสียจังหวะ เพราะติดไฟแดง ยืนรออยู่แป๊บนึง พอปล่อยตัวมาก็พยายามเร่งต่อให้ได้เพซเดิม แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่พักนึง แล้วมาติดอีกทีตรงแยกอังรีดูนังต์ที่จะวิ่งเข้าสยาม
ปล่อยมาครั้งนี้มีเท่าไหร่ต้องใส่หมดแล้ว ไม่งั้นไม่ได้ตามเป้าแน่ วิ่งยิงยาวมาถึงแยกมาบุญครอง เห็นน้องสต๊าฟทำท่าจะกั้นไฟแดงอีกเลยต้องรีบสปีด ขอพี่ไปก่อนนนนนนนนน ข้ามมาถึงหน้าสนามศุภฯ เห็นคนที่เข้าเส้นชัยก่อนหน้าเริ่มเดินออกมาแล้ว พอเข้าข้างในมีช่างภาพนั่งเก็บภาพอยู่ กูไม่เอาแล้วรูป พอถึงช่วงสุดท้ายที่วิ่งในลู่ ตอนนี้ยิ่งสับเลย ขอพี่ต่ำกว่า ๖๐ เถอะ พลีสสสสสส…

เข้าเส้นมาพอยืดเหยียดเสร็จไปเข้าคิวรอเช็คผล ตรงนี้คิวยาวเลย ระหว่างเข้าคิวเจอพี่มาก เฮ้ย พี่เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่เพิ่งมาเริ่มวิ่ง กำลังให้สัมภาษณ์คนถ่ายคลิปหรือ fb live ซักอย่าง เห็นพี่เมฆบอกเพิ่งมาวิ่งเดือนกุมภาฯ นี่เองนะ
จากเป้าสามข้อที่ตั้งไว้ ข้อแรกผ่าน จบไม่เจ็บ เพราะระยะสิบโลนี่เป็นระยะที่ซ้อมปกติอยู่แล้ว ข้อสองผ่านเพราะถึง gun time จะเกิน แต่ chip time ซึ่งเป็นเวลาวิ่งจริงยังได้อยู่ (๕๙:๕๔ นาที ฉิวเฉียดเลย) ส่วนข้อสาม ไม่ผ่าน เหลวเป๋วเลย อย่าว่าที่ ๑,๐๐๐ เลยนี่หลุดไปถึงที่ ๑,๘๕๖ เลยนะ ปีหน้าถ้าจะลงก็ต้องมาแย่งกันเหมือนเดิม (แต่คุณภรรยาได้!! ได้ที่ ๗๐๐ กว่าของกลุ่มผู้หญิง ปีหน้าไม่ต้องแย่งอ่ะ)
วิ่งวันนี้มีความรู้ให้เอาไปปรับปรุงเผื่อลงงานครั้งหน้าหลายข้อ ข้อแรก วิ่งในเมืองต้องเผื่อเวลาติดไฟแดงด้วย เพราะวันนี้โดนไปสองครั้ง ฟังดูก็เหมือนเล็กน้อย แต่มันเป็นจังหวะที่สับมาแล้วต้องมาหยุด เสียเวลาไปหนึ่งละ แล้วพอปล่อยตัว กว่าจะสับขึ้นมาได้เท่าก่อนที่จะหยุดก็ต้องอีกพักนึงเลย
ข้อสอง ปริมาณคนที่วิ่งทำให้เร่งจังหวะไม่ได้ตามใจเรา เพราะบางทีก็ติดคนข้างหน้า แซงไม่ได้
ข้อสาม ประเมินตัวเองต่ำไปนิดนึง ช่วงแรกค่อนข้างผ่อน เพราะกลัวไปหมดตรงโลเจ็ดโลแปด ปรากฎว่า พอเร่งจนเข้าเส้นชัยแล้วยังมีเหลือ นี่เสียดาย น่าจะกดได้มากกว่านี้ (ฟังแล้ว แหม่ กูล่ะหมั่นไส้มึงจริง ๆ -> เล่นเองเจ็บน้อยหน่อย)
ข้อสี่ Newton นี่วิ่งสนุกจริงจังมาก ยิ่งเวลาสับเร่งนะ โอ้โห มันใช่!!
สรุปงานนี้ต้องชมว่าผู้จัดจัดได้ดีมาก ตั้งแต่การจัดการรับสมัคร (ถึงจะเต็มเร็วมากก็เถอะ แต่สมัครงานนี้เว็บไม่ล่มนะ -> งานนาวิกฯ โปรดส่งคนมาดูงาน) มีพลาดไปนิดนึงเรื่องข้อมูลเบอร์โทรฉุกเฉินบนบิบ และการจัดส่งช้ากว่าที่บอกนิดหน่อย แต่ก็มาก่อนวันแข่งหลายวัน แบบสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้น
การดูแลจัดการจราจรดีมาก เรื่องปิดถนนไม่ได้ ๑๐๐% นี่เข้าใจ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ จัดงานวิ่งสเกลนี้ในใจกลางกรุงเทพฯ ขนาดนี้ ปิดการจราจรได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว แถมระหว่างทางมีกรวยกั้นแบ่งเลนและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเส้นทาง จุดให้น้ำมีพร้อมทุกสองกิโลฯ มีจุดให้เกลือแร่อีกจุดนึง
เข้าเส้นชัยมาแยกจุดรับเหรียญให้เดินไปอีกหน่อยจะได้ไม่กองกันอยู่ที่หน้าเส้นชัย อันนี้ใช่เลย จากที่ไปเป็นกำลังใจให้แม่พดด้วงมาสองสามงานหลายงานมาตายตรงนี้ พอคนเข้าเส้นชัยแล้วต้องยืนรอรับเหรียญทำให้แถวยาวไปขวางคนกำลังจะเข้าเส้น อันนี้คิดมาดี ต้องชม
เรื่องอาหารเครื่องดื่มหลังงานมีพร้อม คิวสั้นบ้างยาวบ้างแล้วแต่ประเภทและความสนใจของนักวิ่ง อันนี้เรื่องปกติ
สรุปสั้น ๆ ว่า ดีครับ… (ใครอยากลงงานวิ่งที่การจัดงานได้มาตรฐานปีหน้าเตรียมตัวรอได้เลย)
หมายเหตุ : สำหรับเส้นทางวิ่งเผื่อใครสนใจลงปีหน้านะครับ (ถ้าไม่เปลี่ยนนะ) สนามศุภชลาศัย – ถนนบรรทัดทอง – พระราม ๔ – อังรีดูนังต์ – พระราม ๔ – ถนนวิทยุ – ถนนเพลินจิต – ถนนพระราม ๑ – สนามศุภชลาศัย
