Choco the Labrador

เมื่อวันก่อนฝนตกแล้วหยุด ตกแล้วหยุด เป็นยังงี้ทั้งวัน ไม่มีจังหวะให้ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายมั่งเลย

พอช่วงเย็นซักหกโมงเห็นอากาศเริ่มดี ก็เลยออกมาเดินเล่นรับลมในหมู่บ้าน งวดนี้ไม่ผิดหวังเจอลูกหมาลาบราดอร์ที่เจ้าของพาออกมาพอดี

โปรดสังเกตความเปรตของมัน ซึ่งอาการนี้แหละคือตัวยืนยันว่าแม่งเป็นพันธุ์แท้… 🐕❤️

ประสบการณ์ฉีดวัคซีนโควิดที่ศูนย์บางซื่อ

เล่าประสบการณ์ฉีดวัคซีนโควิดที่ศูนย์บางซื่อ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่จะไปหลังจากวันนี้ครับ

ข้อดี อันนี้ชม

สถานที่กว้างขวาง รองรับคนได้เยอะ ไม่แออัด ไม่ต้องมานั่งเบียดกันให้ไม่สบายใจ เจ้าหน้าที่เยอะ พร้อมให้บริการ ส่งเสียงเรียก ให้คำอธิบาย ถือป้ายบอกเป็นระยะ

การดีไซน์ flow ชัดเจน มึงเดินหน้าอย่างเดียว ถ้ามีแยกซ้ายแยกขวา พอทำขั้นตอนนั้นเสร็จแล้วให้เดินกลับมาถนนเมนแล้วเดินหน้าต่อ

จุดฉีดวัคซีนเรียงยาวเป็นตับ มองไปตรงไหนว่างเสียบได้เลย ถ้าช่องไหนว่างจะมีเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายบอกพร้อมร้องเรียกด้วย

เพิ่มตรงนี้นิดนึง เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นข้อมูลที่คนเขาแชร์กันมาว่า ตอนฉีดให้ยกมือเท้าเอว เพื่อให้ผลอะไรซักอย่าง (ในทางที่ดี)

ระหว่างที่น้องพยาบาลคนฉีดกำลังเช็กข้อมูลและซักประวัติการใช้ยา การแพ้ยา พี่ก็เอาเลย ถกแขนเสื้อไว้เหนือหัวไหล่เรียบร้อย เอามือเท้าเอวรอเลย มาเลยน้อง มา มา

น้องพยาบาลก็ค่อย ๆ มาจับมือที่เท้าเอวออกแล้วดึงให้แขนทิ้งลงมาตรง ๆ ทำนองว่า ไม่ต้อง มึงไม่ต้องทำท่านี้ มึงทำท่าแบบคนปกตินี่แหละ

แต่ของคุณภรรยากลับกันว่ะ คนฉีดวัคซีนให้คุณภรรยาเป็นหมอ หมอจับแขนขึ้นมาเท้าเอวให้เองเลย (เอวคุณภรรยานะ ไม่ใช่เอวหมอ มึงอย่าตลก!!)

เพราะฉะนั้นวัดดวงเอาเองนะฮะว่าจะเท้าเอวหรือไม่เท้าเอว เอว เอ๊ย เอาให้สบายใจ

ฉีดเสร็จจะมีใบบอกข้อมูลว่าเราฉีดวัคซีนยี่ห้ออะไร วันไหน พร้อมกับระบุวันเวลานัดเข็มสองมาเรียบร้อย ก็ถือใบนี้มานั่งรอตรงโซนพักรอดูอาการอีกสามสิบนาที ถ้าไม่มีอะไรก็กลับได้

เดินออกมาเจอซุ้มไอติมวอลล์ แวะหยิบติดไม้ติดมือได้คนละอันจ้ะ แต่ถือมากินข้างนอกนะ เขาไม่ให้กินข้างในอาคาร

ส่วนเรื่องที่ต้องติ มีเรื่องเดียว ที่จอดรถมีปัญหาครับ อันนี้จากประสบการณ์ที่มีนัดฉีดตอนเช้า อยากให้ลองดูว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกมั้ย

แต่ถ้าจำเป็นต้องเอารถไป ไปถึงเจอตรงไหนจอดได้รีบจอดเลย อย่าคิดว่าเดินไกล เดี๋ยวไปหาที่จอดใกล้ ๆ ข้างหน้า เพราะข้างหน้าแม่งยิ่งเต็ม เต็มถึงขนาดจอดรถซ้อนคัน สุดท้ายเสียเวลาวนหาที่จอดรถและก็มาได้แถว ๆ ที่เจอตอนแรกนั่นแหละ

แต่โดยรวมแล้วถือว่าการจัดการดี ใช้เวลาไม่นาน อันนี้ต้องชมครับ… 👍

Morning Ritual: How I Start My Day

นี่เป็นคลิปที่พูดได้เต็มปากว่า…

ห่านอะไรของเมิงงงงงงง เอาสี่นาทีกุคืนมา!! 5555 😆🤣

ที่หมู่บ้านจะมีคนสวนคอยกวาดถนนอยู่แล้ว แต่ปกติถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วนหรือติดอะไรช่วงเช้าก็มักจะออกมากวาดเองด้วยเหตุผลสองข้อ

ข้อแรก มันก็หน้าบ้านเราอ่ะเนอะ กวาดเสร็จแต่เช้าก็สะอาดสวยตั้งแต่เช้า ถ้ารอให้คนสวนมากวาดก็ไม่รู้จะมากี่โมง ยิ่งถ้าวันไหนเขาติดงานอื่นเว้นไปไม่มา พวกใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงมันก็ค้างคาอยู่หน้าบ้านเรานั่นแหละ

ข้อสอง พอได้มากวาดเองทำให้เข้าใจว่าทำไมเรามักจะเห็นพระมากวาดลานวัดกันทุกวัน หรือถ้าเป็นวัดที่ญี่ปุ่นก็จะเห็นหลวงพ่อหลวงพี่มากวาดมาทำความสะอาดสวนหินกัน

การกวาดพื้นนี่มันช่วยทำสมาธิ ช่วยให้เราฝึกดูจิตได้ เป็นการปฏิบัติธรรมแบบฆราวาสเว้ยยยยยยยย

คือในขณะที่เรากวาดไปแต่ละครั้งเนี่ยใจเราก็จะโฟกัสไปที่ของที่เรากำลังกวาด กวาดให้มากองรวมกัน กวาดใส่ที่ตักผง (บางบ้านเรียก ปุ้งเต้า ได้ยินครั้งแรกพี่นี่เหวอเลย อะไรวะปุ้งเต้า 5555) ใจจะไม่วอกแวกไปคิดเรื่องอื่น สมาธิก็จะมา ปัญหา เอ๊ย ปัญญาก็จะเกิด สาธุ 🙏

เพราะฉะนั้น นี่ก็เลยเป็นที่มาว่า ทำไมพี่ถึงชอบทำงานบ้าน ซักผ้ามั่ง ตากผ้ามั่ง ล้างจานด้วย อันนี้ต้องทำความเข้าใจกัน พี่กำลังทำสมาธิ ดูจิต ฝึกปฏิบัติธรรมอยู่ ไม่ใช่พ่อบ้านใจกล้าอย่างที่เข้าใจกัน

โอเคนะ… 😆🤣

วิ่ง city run กรุงเทพฯ ครั้งแรก เส้นยีราฟ

Giraffe route
รูตยีราฟครับ จุดสตาร์ตและ finish อยู่ตรงลูกศรชี้

เมื่อเช้าครับเห่อตื่นตั้งแต่ตีสามกว่าเพื่อจะมาวิ่งซิตี้รันครั้งแรกในชีวิต ที่มาของเรื่องก็คือ ในกรุ๊ป fb ชื่อว่า City Run Club ที่พี่เข้าไปเป็นสมาชิกแบบแอบ ๆ เขาชักชวนกันมาวิ่งโดยเอารูตยีราฟมาเป็นตัวล่อ

อธิบายนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ได้วิ่ง คือเวลาเราวิ่งโดยที่ใส่นาฬิกาที่มีระบบ gps เนี่ย พอเราวิ่งเสร็จแอปนาฬิกามันจะพล็อตเส้นทางวิ่งของเราให้เองอัตโนมัติ

ทีนี้ก็จะมีคนรักสนุกแต่ไม่ทุกข์ถนัด ก็จะดีไซน์เส้นทางวิ่งที่ว่าพอวิ่งเสร็จแล้วก็จะเป็นรูปหรือตัวหนังสือต่าง ๆ นานา แล้วแต่ความชอบความสนใจ

ไอ้รูตยีราฟนี่ก็ไปเตะตาคุณภรรยาเข้าให้ ก็เลยจะไปลองวิ่งดู ถือเป็นครั้งแรกที่วิ่งซิตี้รันและครั้งแรกที่ไปวิ่งกับกลุ่มนี้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้ต้องตื่นตั้งแต่ยังไม่ตีสามครึ่งเพื่อจะอาบน้ำแต่งตัวเรียกแท็กซี่ไปที่หน้าโรงเรียนสวนกุหลาบที่เป็นจุดนัดพบ

พอใกล้ได้เวลาก็พากันไปที่ดิ โอลด์สยามที่เป็นจุดสตาร์ต รวมตัวกันถ่ายรูปเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเริ่มวิ่งซึ่งทำให้เห็นว่ามีนักวิ่งมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้คึกคักหนาตามาก น่าจะราว ๆ ๒๐๐ คนได้

รวมพลก่อนสตาร์ต
รวมพลก่อนออกวิ่ง

พอให้อุ่นใจว่า ไม่เหงาเว้ย

การวิ่งเรียบร้อยดี เพราะนอกจากจะแชร์เส้นทางมาให้ศึกษากันก่อนแล้วทีมแอดมินยังคอยประกบหน้าประกบหลัง มีที่ขี่จักรยานคอยส่งเสียงเตือนเวลาข้ามแยกและบอกนักวิ่งให้วิ่งชิดริมถนนด้วย

เส้นทางผ่านหลายจุดแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ อย่างภูเขาทอง พระบรมรูปทรงม้า พระที่นั่งอนันตสมาคม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สนามหลวง วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง เสาชิงช้า เออ เยอะจริงว่ะ

สถานีสามยอด
ผ่านสถานีสามยอด นี่ก็เพิ่งเคยมาครั้งแรกนะ

ส่วนที่ทำให้ใจเต้นก็พอมีอยู่บ้างเล็กน้อย ตอนพักเบรกที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ด้วยความที่คนมากันเยอะ ระหว่างที่ยืนรวมตัวกัน บ้างก็ถ่ายรูป ถ่ายโน่นถ่ายนี่ สักพักมีรถตำรวจมาเว้ย พี่เดินลงมาสองคน คงสงสัยพวกมึงมาทำไรกัน อย่ามาทำให้กุซวยงี้ 5555

พระบรมรูปทรงม้า
พักเบรก ถ่ายรูปหมู่กันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

สรุปวิ่งไปสองชั่วโมงกว่า ระยะวิ่งจริงประมาณ ๑๙ โล แต่ระยะในแอป ๑๗ โลกว่าเพราะมีช่วงที่กดหยุดนาฬิกาด้วย (เพื่อให้ได้รูปยีราฟตามที่ดีไซน์ไว้)

พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระที่นั่งอนันตสมาคม

ได้บรรยากาศแปลกใหม่ของการวิ่ง ได้เห็นว่าในเมืองก็พอวิ่งได้ แต่ต้องระวังและใช้ความสังเกตมากหน่อย เพราะฟุตบาตกรุงเทพฯ อ่ะนะ อีกอย่างคือ เนื่องจากเริ่มวิ่งตั้งแต่เช้ามืด รถก็เลยยังไม่มาก กลิ่นควันรถน้อยมาก ไหวอยู่นะ

อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รูปนี้ถ่ายเสร็จดูทีแรกนึกว่าม็อบ ไม่ใช่นะ 5555
วัดพระแก้ว
วัดพระแก้วจ้ะ จุดนี้เบรกถ่ายรูปหมู่กันอีกครั้ง
กระทรวงกลาโหม
ด้านหลังกระทรวงกลาโหม ดูบรรยากาศสิ ธรรมดาที่ไหน…
เสาชิงช้า
เสาชิงช้ายามเช้าจ้า

ใครสนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรมซิตี้รันแบบนี้ กดเข้ากรุ๊ปได้เลยจ้ะ แอดมินบอกตอนก่อนแยกวงว่า หลังจากนี้จะมีกิจกรรมวิ่งทุกอาทิตย์ ใครชอบแบบไหน รูตไหน จัดไปได้เลย…

ประสบการณ์วิ่งงาน Bangkok Midnight Marathon 2019

Bangkok Midnight Marathon 2019 medal

มาครับ ร่างฟื้นแล้ว ทั้งกายหยาบกายละเอียด เขียน race note งาน Bangkok Midnight Marathon 2019 เสร็จแล้วครับ

งานนี้ทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะลง เพราะไปทางเทรลแล้ว แต่มาเปลี่ยนใจเพราะจะใช้งานนี้เป็นการซ้อม long run เนื่องจากซ้อมเองแม่งซ้อมไม่ได้ (อ่านแล้วอย่าเพิ่งหมั่นไส้ ถุย!! ลงงานฟูลเพื่อซ้อม อะไรงี้)

ทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่าวิ่งได้แค่ไหนก็แค่นั้น (เพราะซ้อมไกลที่สุดแค่สิบโลเอง อันนี้ไม่ดี ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง) แล้วก็ดูสภาพตัวเอง ไม่ฝืน ต้องไม่เจ็บ จะ dnf ก็ช่างมัน ซึ่งพอคิดแบบนี้แล้วแม่งไม่เครียดเว้ย สบาย ๆ ไม่กดดัน

อีกอย่างที่ทำให้พร้อมจะ dnf ก็คือ แพลนไว้ว่าวันเสาร์จะนอนกลางวันเพื่อออมแรงเอาไว้ แต่ปรากฎว่ามีงานเข้า ต้องออกไปสัมภาษณ์คุณลูกค้าช่วงบ่าย เสร็จเย็น กลับถึงบ้านค่ำ กินข้าว อาบน้ำนอนได้ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ต้องตื่นขึ้นมาเตรียมตัวแล้ว

ภารกิจแฝงอีกประการของงานนี้คือ จะเอา apple watch ไปทดสอบว่า แบตจะอยู่ได้กี่ชั่วโมง จะอยู่จนจบฟูลได้มั้ย? สงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่ซื้อ แล้วก็เห็นคนโพสต์ถามในกลุ่มวิ่งเรื่อย ๆ ทีนี้คนมาตอบก็พวกขาแรงไง จบฟูลสี่ชั่วโมงงี้ พวกนักวิ่งกาก ๆ นักวิ่งแนวหลังอย่างเราก็อยากรู้ว่าเวลาแบบเรานี่แบตจะอยู่ถึงมั้ยวะ

เรื่องนี้เคยเอาไปลองที่งานจอมบึงเมื่อตอนต้นปีมาแล้วครั้งนึง แต่ตอนนั้นดันเฟอะฟะ ไม่ได้ล็อกทัชสกรีนเอาไว้ พอยกแขนขึ้นปาดเหงื่อก็ไปโดนหน้าจออิท่าไหนกลายเป็น pause ไปเลย หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้ลงงานฟูลอีกจนงานนี้นี่แหละ

งานนี้สตาร์ตตอน ๐๐.๕๙ น. วันอาทิตย์ (พูดง่าย ๆ คือ เกือบตีหนึ่งของคืนวันเสาร์ นี่ถ้ามึน ๆ ได้มีออกมาวิ่งผิดวันกันมั่งล่ะ) เส้นทางวิ่งของระยะฟูลน่าสนใจมาก ส่วนตัวยกให้เป็นเส้นทางวิ่งฟูลในกรุงเทพฯ ที่ดีเป็นอันดับสอง รองจาก Amazing Thailand Marathon นะ

เริ่มจากจุดสตาร์ตที่บริเวณหอกลอง ถนนสนามไชย วิ่งเลียบข้างวัดพระแก้ว ผ่านกระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง ศาลฎีกา เลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำเนินกลางมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (อ้อ ตอนที่ผ่านบริเวณกองสลากเก่าได้ยินเสียงเพลงลอยมาจากถนนข้าวสารยังคิดในใจว่า ชาวบ้านแถวนี้เขาอยู่กันยังไงวะเนี่ย เสียงขนาดนี้)

มาถึงสะพานผ่านฟ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอกผ่านหน้ากระทรวงเกษตรฯ เลี้ยวซ้ายวิ่งขึ้นสะพานพระราม ๘ แล้ววิ่งยาวอยู่บนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีจนถึงจุดกลับตัว (กิโลเมตรที่ ๑๘) วิ่งย้อนกลับทางเดิมจนลงสะพาน เลี้ยวซ้ายไปพระบรมรูปทรงม้า เลี้ยวขวาผ่านวัดเบญฯ เลี้ยวซ้ายวิ่งไปถึงแยกสุโขทัยแล้วเลี้ยวขวาวิ่งรอบสวนจิตรฯ

กลับมาพระบรมรูปทรงม้าเลี้ยวซ้ายวิ่งผ่านสนามมวยราชดำเนิน ตรงมาผ่านฟ้า มองเห็นภูเขาทองอยู่ตรงหน้า ข้ามมาโลหะปราสาท มาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลี้ยวซ้ายตรงไปเข้าเส้นชัยที่ห้นาศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยที่มีเสาชิงช้าตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใกล้ ๆ

จริง ๆ เส้นทางที่เล่ามานี่มีแผนที่ให้ดูนะ แต่ที่ให้อ่านมายืดยาวนี่เพื่อให้เห็นภาพว่าผ่านแลนด์มาร์กอะไรบ้าง ถามว่าตลอดเวลาที่วิ่งอยู่น่ะ ได้ชื่นชมความงามอะไรมั้ย? ไม่เลย เพราะแม่งเหนื่อย 5555

ถึงเวลาสตาร์ต ปล่อยตัวเหล่าอิลิตออกไปก่อน แล้วอีกห้านาทีถึงปล่อยตัวนักวิ่งทั่วไป (ผู้จัดงานคงกลัวนักวิ่งไปเกะกะอิลิตจนทำเวลาได้ไม่ดี) งานนี้มีคัตออฟแรกที่โล ๓๔ คำนวณแล้วต้องวิ่งไม่เกินเพซ ๘.๓๐ คัตออฟสองที่โล ๓๙ ต้องไม่เกินเพซ ๘ หลังจากนั้นคัตออฟที่เส้นชัย ตัดที่เวลารวมหกชั่วโมง ก็พยายามวิ่งคุมเพซตามแผนที่วางไว้ คือ ไม่เกินเพซ ๗ กะว่าตุนเวลาเก็บเอาไว้หน่อย ถ้าช่วงท้ายแรงหมดหรือมีเหตุต้องผ่อนต้องเดินก็ยังไม่ต้องลุ้นมาก

วิ่งระวังตัวมาจนถึงสิบโลนิด ๆ ยังรู้สึกดี อาการเจ็บเข่าที่เจอมาตลอดสี่งานหลังสุดยังไม่มีอาการเลย มาถึงจุดกลับตัวโลที่ ๑๘ วิ่งวนกลับมาเจอ pacer ห้าชั่วโมงวิ่งตามมาถึงเพิ่งรู้สึกตัว เฮ้ย ถ้าวิ่งได้ประมาณนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบนี่ได้ sub 5 nicely เลยนะมึง ทีนี้ก็ตั้งเป้าเลย จะเอา sub 5 กลับไปฝากท่านประธานพดด้วงที่นอนยิ้มอยู่ในหลุมซะหน่อย

ถึงโลที่ ๒๐ เติมเจลครั้งแรกตามที่วางแผนไว้ ไม่อยากชนกำแพงหมดสภาพเหมือนที่นักวิ่งหลายคนเคยเจอ แม่งเป็นไงก็ไม่รู้ แต่ขออย่าเจอเป็นดีที่สุด มาถึงโลที่ ๒๒ เริ่มมีอาการขาตึง ๆ เลยหยุดพักเหยียดน่องนิดนึง ดูเวลาแล้วยังสบาย ๆ

พอมาถึงโล ๒๖ – ๒๗ แม่งเริ่มไม่สบายแล้ว ต้องแวะหยุดยืดเหยียดทุกจุดให้น้ำ จนถึงโลที่ ๓๐ อยู่บนทางคู่ขนานลอยฟ้าหน้าห้างพาต้าเติมเจลครั้งที่สอง ดูเวลา เริ่มช้าลงแต่ยังทัน sub 5 และมั่นใจว่าวันนี้กูจบแน่ ๆ เหลืออีกแค่ ๑๒ โล จากจุดนี้เดินไปจนถึงเส้นชัยยังทันเลย ขอแค่อย่าเจ็บ อย่าชนกำแพงเท่านั้นเอง

วิ่งมาถึงสะพานพระราม ๘ ขาลง โอ้โห ผลจากการฝึกดาวน์ฮิลมาแม่งช่วยได้จริงว่ะ มั่นใจขึ้นมาก ดาวน์ฮิลลงสะพานมาสวย ๆ เลย แล้วเลี้ยวซ้ายไปเข้าจุด check point แรกโลที่ ๓๔ ตรงบริเวณอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า ดูเวลาแล้ว กำลังใจมา

แต่ก็นั่นแหละครับพี่น้องครับ ชีวิตนี้ถ้าอะไรมันเป็นอย่างที่คิดเสมอไป Murphy’s Law แม่งก็คงไม่โด่งดังทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ จากที่กลัวว่าจะเจ็บ จะชนกำแพง ไม่เลยครับ วิ่งมาถึงโลที่ ๓๖ เจอตะคริวครับ วิ่งมาหลายปี ไม่เคยเป็นตะคริว มาเป็นเอาวันที่จะทำเวลาไปฝากพดด้วงนี่แหละ จังหวะที่มานี่วางเท้าซ้ายลงไปจี๊ดมาที่น่องซ้ายเลย ตัวนี่เกือบทรุด ยังดีที่นักวิ่งที่ตามมาเขาหยุดทัน

จากที่คิดว่ายังมีลุ้น sub 5 พอตะคริวมานี่เกมเปลี่ยนเลย ดีที่ตุนเวลาเอาไว้เยอะ คำนวณใหม่เหลืออยู่หกโล เดินไป check point สอง ที่โล ๓๙ ก็ยังทัน จากนั้นถ้าต้องเดินเข้าเส้นชัยก็ยังได้อยู่ ก็เลยอุ่นใจหน่อย ก็เดินสลับวิ่งมาเรื่อย ๆ วิ่ง ๆ ไปพอตะคริวจะมาก็หยุดเดิน เดินไปสักพักอาการดีขึ้นก็วิ่งต่อ มาอย่างนี้จนถึงสะพานผ่านฟ้า ข้ามถนนมาหน้าโลหะปราสาท โอ้โห ช่างภาพเรียงกันเป็นตับ ยิงกันรัว ๆ ไม่ได้ จะมีรูปกูเดินหมดสภาพไม่ได้ กัดฟันวิ่งเหยาะมาตลอดทาง กะว่าพอช่างภาพซาแล้วค่อยเดิน ที่ไหนได้ แม่งนั่งเรียงกันยาวไปจนเข้าเส้นชัยโน่น ดีที่ไม่หมดสภาพไปซะก่อน

Bangkok Midnight Marathon 2019 route

งาน Bangkok Midnight Marathon 2019 มีทั้งข้อดีและข้อไม่ดี แต่ถ้าอ่านจากใน fb นึกว่าไปกันคนละงาน เพราะนักวิ่งถล่มกันยับ!! แต่หลายเรื่องตัวเองไม่โดน หลายเรื่องเจอแต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร และบางเรื่องที่เจอแม่งไม่ดีจริง ๆ ก็มี

งานนี้สิ่งที่พอใจมากนอกเหนือจากการเข้าเส้นชัยได้ทันเวลาก็คือ ไม่เจ็บเข่าเลย แสดงว่าการบอดี้เวตที่ผ่านมาแม่งได้ผลเว้ย รวมถึงการซ้อมดาวน์ฮิลก็ได้ผลอีกเหมือนกัน นี่ค่อยเป็นกำลังใจให้ขยันซ้อมได้หน่อย

สุดท้าย สำหรับภารกิจทดสอบ apple watch series 3 ในที่สุดก็หายคาใจซะทีว่า ใส่ apple watch วิ่งฟูลได้มั้ย?

สรุปว่า ได้ครับ ตอนออกสตาร์ตมีแบตอยู่ ๙๔% เปิดโนติฯ ตามปกติทุกอย่าง แต่ไม่ได้ฟังเพลงระหว่างวิ่งนะ วิ่งเสร็จห้าชั่วโมงกว่าแบตเหลืออยู่ ๕๔% ตามภาพ เพราะฉะนั้นใครที่สนใจ apple watch แต่ยังลังเล ก็สบายใจได้เลย แบตอยู่ถึงแน่นอน และถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องอะไร เดี๋ยวมารีวิวกันอีกที

สวัสดีครับ… ❤

Apple Watch battery after running a marathon

ทดสอบ gps Garmin FR235 และ Apple Watch ที่สวนรถไฟ ภาค ๒

จากที่วันเสาร์ที่แล้วได้ไปทดสอบ gps ของ apple watch series 3 และ garmin fr 235 ที่สวนรถไฟ โดยสวม garmin ที่ข้างซ้าย (ข้างที่ถนัด) และ apple watch ที่ข้างขวา ผลที่ได้คือ garmin ได้ระยะ ๒๑.๐๓ โล apple watch ได้ ๒๑.๖๐ โล (อ่านความเดิมตอนที่แล้วได้ที่นี่ครับ https://buak.net/2018/08/12/gps-test-garmin-fr235-apple-watch-series-3/ )

มีเพื่อนสมาชิกได้แนะนำว่า การวิ่งวนซ้าย นาฬิกาที่มือซ้ายจะได้ระยะน้อยกว่ามือขวา เพราะฉะนั้นผลที่ได้ก็ปกติ แต่ด้วยความซนของผมที่อยากรู้อยากเห็น (แต่ไม่สอดรู้สอดเห็นนะฮะ 😆) ก็เลยไปทดสอบกันอีกครั้งเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๑)

วิ่งที่สวนรถไฟเหมือนเดิม เส้นทางเดิม แวะเข้าห้องน้ำตรงจงอยปลายติ่งที่เดิม หยุดซื้อน้ำเกลือแร่ที่ซุ้มน้ำเหมือนเดิม เรียกว่าพยายามคุมปัจจัยให้ใกล้เคียงครั้งที่แล้วทุกอย่าง ที่แตกต่างคือ เปลี่ยนมาใส่ apple watch ที่ข้างซ้ายและย้าย garmin ไปข้างขวา

ผลที่ได้คือ ที่จำนวนรอบเท่ากับครั้งที่แล้ว apple watch ได้ระยะ ๒๐.๙๖ โล ส่วน garmin ได้ ๒๐.๙๕ โล (ซึ่งไม่ตรงตามทฤษฎี) และเมื่อวิ่งต่อให้ครบระยะที่ตั้งใจวิ่งครั้งนี้คือเก้ารอบสวนรถไฟ ได้ผลตามรูปครับ

รูปบนมาจาก apple watch ได้ระยะ ๒๓.๔๘ โล ส่วนรูปล่างของ garmin ได้ ๒๓.๕๖ โล ตรงตามทฤษฎีที่เพื่อนสมาชิกแนะนำมา แต่ถ้าเทียบกับข้อมูลของครั้งที่แล้วจะพบว่า ส่วนต่างของระยะทางที่ได้ทั้งสองครั้งต่างกันอยู่พอสมควรครับ

สวนรถไฟ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๑

สวนรถไฟ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๑

ป.ล. ๑ ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องความแม่นยำของระยะทาง แค่ลองดูเพราะอยากรู้เฉย ๆ

ป.ล. ๒ การวิ่งเช้านี้ apple watch เริ่มต้นมีแบต ๙๖% วิ่งเสร็จเหลือแบต ๗๑% ครับ (ครั้งที่แล้วมีเพื่อนสมาชิกสอบถามมาครับ)

ป.ล. ๓ ดูรูปเส้นทางวิ่งแล้วโปรดอย่าคิดลึก เส้นทางวิ่งที่สวนรถไฟเป็นแบบนี้เองนะครับ 😊