วิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก : ศิริราช เดิน-วิ่ง ผสานชุมชน ครั้งที่ ๑๒

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Medals

เมื่อเช้าไปปักหมุดหมายใหม่ให้กับการวิ่งของตัวเองมาครับ หลังจากที่ประเดิมงานวิ่งครั้งแรกไปแล้วด้วยงาน Samsung Galaxy 10K Thailand Championship 2018 (ตามที่เล่าไปแล้วในโพสต์นี้) ครั้งนี้เป็นการลงงานวิ่งครั้งที่สองและเป็นการวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก ที่งาน ศิริราช เดิน-วิ่ง ผสานชุมชน ครั้งที่ ๑๒ เป็นงานการกุศลที่ทางโรงพยาบาลศิริราชจัดขึ้นและจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ ๑๒ แล้ว โดยที่ครั้งนี้มีเพิ่มระยะฮาล์ฟมาราธอนเป็นครั้งแรก

เมื่อวานวันเสาร์ฝนกระหน่ำกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ายาวไปยันค่ำ ทำเอาใจไม่ดี บอกเทวดาว่าถึงจะอยากไปบอสตัน มาราธอนแต่ก็ยังอีกนาน ไม่ต้องมาให้ลองบรรยากาศบอสตันตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้นะ (เว้ย) ใจนี่คิดอยู่ว่าจะได้ไปวิ่งมั้ย ถ้าไปแล้วเจอฝนจะต้องยังไง ฝนขนาดไหนถึงจะหยุดวิ่ง ดูข้อมูลจากแอปจากเว็บพยากรณ์อากาศก็บอกเหมือนกันหมดว่าเจอฝนแน่นอน แล้วตลอดทั้งวันที่กังวลอยู่นี่มีแต่คุณภรรยาที่ดีใจ อยากให้ฝนตกตอนวิ่ง บอก ไม่ได้เล่นน้ำฝนมานานแล้ว (เอ็งไปเล่นตอนไหนก็ได้มั้ย? -> นี่คิดในใจ 5555)

พอหยั่งงี้เลยต้องเตรียมตัว ต้องเอาหมวกไปด้วย แถมรองเท้าก็เปลี่ยนใจทีแรกจะเอา altra escalante boston ไป หลังจากงาน Samsung 10K ก็ซ้อมคู่นี้ตลอด แต่ถ้าจะเจอฝนขอเปลี่ยนเอา newton ไปดีกว่า ใส่แล้วดูมั่นใจว่าช่วยล็อกเท้าได้แน่นหนาดี

ตอนเช้าตื่นตั้งแต่ตีสอง เมื่อวานโหลดคาร์บไปแล้วด้วยพิซซ่าหนึ่งถาด ตามด้วยมะละกออีกครึ่งลูก แต่เพื่อความมั่นใจเพราะวิ่งฮาล์ฟครั้งแรก กลัวหมดแรงกลางทาง เช้านี้เลยจัดเดนิชลูกเกดอีกสองชิ้น ตามด้วยน้ำเต้าหู้อีกแก้ว กินเสร็จรู้สึกแน่น ๆ ยังคิดอยู่ว่า นี่กูกินมากไปมั้ย (วะ)?

ไปจอดรถที่วัดอมรินทรฯ (หลวงพ่อโบสถ์น้อย) แล้วเดินถึงงานก่อนเวลาพอสมควร มีเวลาได้วอร์มเป็นเรื่องเป็นราวไม่เหมือนงาน Samsung 10K ระหว่างวอร์มก็ว่า ทำไมคนมองมาข้าง ๆ เราเยอะจังวะ หันไปดู อ้าว พี่เมฆ วินัย ไกรบุตร มางานนี้ด้วย

มาวิ่งวันนี้ตั้งเป้าสองข้อ คือ จบไม่เจ็บ (ยังไงก็ต้องจบ ไม่ไหวก็ต้องลากสังขารเดินให้จบ เพราะคุณภรรยาจบฮาล์ฟมาแล้วครั้งนึง ถ้าครั้งแรกนี่ DNF แม่มโดนหยามไปจนถึงงานหน้าแน่ ๆ ) และขอจบด้วยเพซไม่เกิน ๗ จะ ๖:๕๙ ก็ได้ไม่ว่ากัน ตั้งใจว่าจะวิ่งด้วยเพซเจ็ดบวกลบนิด ๆ ไปซัก ๑๕ โล แล้วที่เหลือค่อยเร่งให้จบเร็วกว่า ๗ คิดว่าน่าจะเอาอยู่

ปล่อยตัวตอนตีสี่ วิ่งออกจากโรงพยาบาลทางด้านวังหลังแล้วยิงยาวไปสามแยกไฟฉาย ช่วงแรกคนเยอะก็สปีดหนีกันน่าดู ก้มดูนาฬิกา ชิ_หาย เพซห้ากว่า ไม่ได้ ไม่ได้ เดี๋ยวหมด วิ่งไม่จบ ต้องผ่อนลงหน่อย วิ่งไปสักพักเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี แน่น ๆ ท้อง แถมเลี่ยนเบเกอรี่ที่กินมาเมื่อเช้าด้วยแต่ก็วิ่งประคองไป

จนระยะสามโลกว่าสิ่งที่ไม่เคยเกิดตอนวิ่งและไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดจนได้ แม่ม Murphy’s Law จริง ๆ นั่นคือ ปวดขรี้ครับพี่น้องครับ วิ่งมาหลายปีไม่เคยมีปัญหานี้ แล้วมึงต้องมาเจอครั้งแรกตอนลงงานวิ่งเนี่ยนะ

พยายามหายใจลึก ๆ วิ่งประคองมาจนถึงจุดจอดรถพยาบาลที่กิโลฯ ที่สี่ มีรถสุขาจอดอยู่เลยวิ่งไป ปรากฎว่าท้องเสีย สงสัยจะเป็นเพราะมะละกอ กว่าจะเสร็จเสียเวลาไปประมาณสิบนาที

วิ่งต่อมาสักพักเจอคุณภรรยา (อีกแล้ว ตอนงาน Samsung ก็เจอ) เลยวิ่งไปเทียบ นั่นก็ถามว่า ทำไมเพิ่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยบอกว่า ไปขรี้มา ท้องเสีย แล้วก็ขอไปก่อนล่ะนะ ทำเวลาคืนหน่อย

วิ่งมาดูเพซมาเรื่อย ๆ อยู่ที่หกกว่า เอาไงดีวะ นี่ผิดแผนไปหน่อย สองจิตสองใจกลัวหมดตั้งแต่โล ๑๖ – ๑๗ อีกใจก็คิดว่า ไม่เป็นไรเปลี่ยนจากที่จะสปีดตอนท้ายมาเป็นตอนนี้แทนแล้วช่วงท้ายประคองเอาเท่าที่ได้ละกัน สรุปวิ่งแม่มเพซนี้ล่ะ ไปวัดกันอีกทีว่าจะหมดมั้ย

วิ่งมาได้อีกหน่อย เจอสะพานข้ามแยก กำลังขึ้นสะพานเหนื่อย ๆ เจอคนวิ่งสวนกลับมาแล้ว อัดคู่กันมาเลย ไม่มีใครนำใคร ชิ_หาย ก้มดูระยะเพิ่งได้เจ็ดโลครึ่ง คำนวณไปอีกสามโลถึงจุดกลับตัว กลับมาอีกสามโล เท่ากับตอนนี้คนนำวิ่งไปแล้ว ๑๓ โลครึ่ง เหยดดดดดดดดด…

เออ ตรงนี้ประทับใจ จังหวะที่นักวิ่งกลุ่มนำวิ่งสวนกลับมา นักวิ่งที่กำลังวิ่งอยู่มีปรบมือให้กำลังใจด้วยนะ นี่ก็ปรบกับเขาด้วย

ผ่านสะพานข้ามแยกอันแรกไปแล้ว ต่อไปอีกหน่อยเจอสะพานที่สอง ตอนไต่ขึ้นไปไม่ได้คิดถึงโมเมนต์ตอนนี้เลย คิดเผื่อไปตอนขากลับว่า ขากลับกูจะเหนื่อยกว่านี้ แล้วกูจะรอดมั้ย ฮ่าาาาา

วิ่งไปก็นึกไป ทำไมไม่ถึงจุดกลับตัวซะทีวะ เหมือน ๆ จะถึงแต่ก็ไม่ถึง ใครแม่มย้ายจุดไกลออกไปหรือเปล่าวะ (ใครแม่มจะย้ายวะ?) แถมยังมีนักวิ่งกลับตัวมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ใจก็ฝ่อไปหน่อย พอมาถึงจุดกลับตัวที่โล ๑๐.๕ ดูเพซเฉลี่ยได้ ๖:๓๔ อ้าว โอเคอยู่เว้ย ยังได้อยู่ ใจชื้นขึ้นมานิดนึง

มาถึงโลที่ ๑๓ อาการเจ็บเข่าขวาเริ่มมา เวลาวิ่งผ่านจุดพยาบาลก็แวะขอให้ฉีดสเปรย์ช่วย วิ่งผ่อนลงหน่อย เพซเฉลี่ยค่อย ๆ ขยับขึ้นมาเป็น ๖:๓๗ ไล่มา ๖.๔๑ ก็ยังไหววะ

ขากลับมาเจอสะพานข้ามแยกอันสุดท้ายใจนี่อยากเดินเลย แต่ฝืนใจก้าวสั้น ๆ ขึ้นไป ไอ้ขาขึ้นว่าเหนื่อยแล้ว เจอขาลงนี่อย่านึกว่าสบาย เกร็งขากันน่าดู โฮ้ยยยยย นี่กูมาทำอะไร

มาถึงโลที่ ๑๙ อาการเข่าขวายังมีอยู่แต่กำลังใจยังดี ยิ่งมาถึงสามแยกไฟฉายใจยิ่งมาเลย เหลืออีกนิดเดียวแล้วเว้ย ตั้งใจว่ากูจะเร่งล่ะนะ จะได้จบสวย ๆ เหมือนตอน Samsung 10K แต่ไม่ไหว เร่งได้นิดเดียวก็หมด เลยประคองเพซมาจนเข้าเส้นชัย กดนาฬิกาดู เออ เว้ย ได้เพซ ๖:๕๐ ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Finisher Shirt

งานนี้ตอนที่วิ่งค่อนข้างดี ปิดการจราจรบางส่วน (อันนี้เข้าใจ วิ่งในกรุงเทพฯ ก็อย่างนี้แหละ) แต่เจ้าหน้าที่กับตำรวจจราจรดูแลตลอดเส้นทาง มีรถพยาบาลพร้อม สเปรย์มีบริการ จุดให้น้ำให้น้ำเกลือแร่ตลอดเส้นทาง จะมีติดนิดนึงคือบางช่วงจะมืดไปหน่อยกับเส้นทางบางจังหวะจะแคบไปนิด

ที่น่าจะต้องปรับปรุงหน่อยก็คือ ช่วงหลังเข้าเส้นชัย ที่ปริ้นต์ผลการวิ่งเสีย ปริ้นต์ไม่ได้ และพื้นที่โซนอาหารแคบไปนิดเมื่อเทียบกับจำนวนนักวิ่ง เลยติดขัดและแออัดกันพอสมควร

แต่รวม ๆ ถือว่าโอเค ปีหน้าเจอกัน (ถ้าสมัครได้นะ) …

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Route

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: