ซ้อมที่เขาตีนไก่ในวันแรงงาน

วันนี้ไปซ้อมที่เขาตีนไก่ ระยะทางไม่ได้เยอะอะไร เกนก็นิดเดียว เพซยิ่งไปกันใหญ่ แต่ที่ประทับใจคือตอนที่วิ่งเส้นน้ำตกสลัดไดมีน้องหมาคู่นึงวิ่งไปวิ่งกลับด้วยจนสุดทาง

เรื่องมันเริ่มจากตอนที่เราลงมาจากผานางดำ ผ่านมาถึงบริเวณหน้าสถานีเพาะกล้าไม้มีน้องหมาตัวผู้สีเทาวิ่งมาจากไหนไม่รู้แล้ววิ่งคู่ไปกับเรา ตัวนี้ดูทรงดีเลย (อันนี้ไม่ใช่คำราชาศัพท์นะฮะ 😊) มีกล้ามเนื้อพอประมาณ เป็นหมาหนุ่มกำลังฟิต

ไปได้อีกประมาณร้อยเมตร เจออีกตัวเป็นตัวเมียยืนจังก้าอยู่กลางถนน (กลางถนนจริง ๆ) แต่กระดิกหางแกว่งซ้ายขวาดูท่าแล้วน่าจะมาดี พอเราเข้าไปใกล้ก็พุ่งมาเลย กระโดดเข้าหา มีงับต้นขา งับมือ งับแบบงับกิ๊บ ๆ งับเบา ๆ ไม่ให้เราเจ็บอ่ะ ใครเคยเลี้ยงหมาหรือเคยเล่นกับหมาน่าจะพอนึกออก

พอเราเดินต่อน้องก็ตามมาทั้งสองตัวโดยที่เราไม่ได้เรียก อันนี้ต้องบอกก่อน ปกติไปที่ไหนเวลาเจอหมาเราจะไม่เรียกให้ตามมา เพราะ หนึ่ง กลัวแม่งหลง วิ่งไปกับเราแล้วกลับบ้านไม่ถูก สอง กลัวไปเจอเจ้าถิ่นข้างหน้า เดี๋ยวจะโดนเล่นงานเอา ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะไม่เรียกให้วิ่งตามแล้ว เรายังไล่ไม่ให้ตามมาด้วย

พอเราเริ่มอัปฮิลน้องทั้งสองตัวก็วิ่งออกนำหน้าไป แม่งอัปฮิลสบาย ๆ เลย เห็นแล้วอิจฉาหมา พอไปข้างหน้าได้ซักหน่อยมีหยุดรอให้เราเดินตามทัน บางจังหวะมีหันมามอง ประมาณว่า ทำไมพวกพี่ช้ากันจังวะ?

ที่แสบคือบางช่วงที่ชันมาก น้องแม่งคงรอนาน พอเราไปถึงแม่งนอนรอเลย นี่ยังดีที่มันไม่ส่งสายตาหยามเหยียดมาด้วย

ตลอดทางน้องตัวผู้จะมีแวะฉี่ข้างทางซ้ายขวาเป็นระยะ เพื่อเอาไว้เป็น GPS navigation จะได้ดมหาทางกลับได้ถูก ตอนแรกพี่ก็ว่าจะเลียนแบบมันมั่งนะ แต่นึกขึ้นได้ว่าจมูกพี่แยกกลิ่นฉี่ไม่ออก เดี๋ยวดมไปดมมา ไปตามกลิ่นฉี่คนอื่นหลงทางจะยุ่งตายห่ะ 5555

ตอนแรกนึกว่าคงวิ่งตามไปแป๊บเดียว พอไปสักหน่อยแล้วก็คงจะกลับ แต่ไม่ใช่ ทั้งสองตัวไปกับเราจนถึงน้ำตกสลัดได โดยที่ระหว่างทางมีวิ่งออกไปไล่จิ้งเหลนกิ้งก่าตามข้างทางเป็นระยะ พอขากลับก็กลับออกมาพร้อมกับเรา ลงมาจนถึงจุดที่เจอกันตอนแรก รวมระยะทางไปกลับร่วมห้าโล โดยที่ทั้งสองตัวไม่มีท่าทางจะเหนื่อยสักนิดเดียว ส่วนพี่นั้น

หอบเป็นหมาเลย… 5555

วิ่งยามเช้ากับซีซาร์ (หมาลาบราดอร์)

ซีซาร์เป็นหมาลาบราดอร์พันธุ์ผสม พ่อเป็นลาบราดอร์ แม่เป็นโกลเดน รีทรีฟเวอร์ ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วเชื้อพ่อน่าจะแรงกว่าแม่ เพราะออกไปทางลาบราดอร์มากกว่า

ซีซาร์เป็นมะเร็ง อยู่ในระหว่างการรักษา

พี่เจอซีซาร์ครั้งแรกเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว เช้านั้นตั้งใจว่าจะซ้อมวิ่งระยะไกลกว่าปกตินิดนึงก็เลยออกมาวิ่งเร็วหน่อย ตอนตีสี่กว่า ๆ ก็วิ่งวนอยู่ในหมู่บ้านนั่นแหละ

วิ่งไปได้สองสามรอบเจอคนจูงหมาออกมาเดิน ก็ยังคิดอยู่ว่าทำไมพาออกมากันตั้งแต่ยังมืดขนาดนี้ มองไปไกล ๆ ดูทรงแล้วเหมือนลาบราดอร์ แต่ไม่เคยเจอมาก่อน

พอวนมาเจอรอบที่สองดูแล้วน่าจะเป็นมิตรกันทั้งคนทั้งหมา (มีกูนี่แหละที่ดูไม่น่าเป็นมิตรที่สุด 5555) ก็เลยส่งยิ้มให้ก่อน ลืมไปว่าใส่แมสก์อยู่ แล้วเปิดบทสนทนาไป

หมากี่เดือนแล้วครับ?

ที่ถามไปยังงี้นี่มั่นใจมาก เพราะไม่เคยเจออย่างที่บอก แล้วน้องก็ตัวเล็ก กะว่าเต็มที่ก็เจ็ดแปดเดือน

แล้วก็ต้องเซอร์ไพรส์เพราะพี่ผู้หญิงเจ้าของบอกว่า เก้าปีแล้ว เราก็ ฮ้า!! ทำไมไม่เคยเห็น

พี่เจ้าของเล่าว่า ก่อนหน้านี้เลี้ยงซีซาร์อยู่แต่ในบ้าน เลี้ยงกับแม่ที่เป็นโกลเดนฯ ซึ่งก็เล่นกันอยู่สองตัวนัวเนีย นัวเนีย มีความสุขดี ก็เลยไม่ได้พาออกมานอกบ้าน มาตอนนี้แม่ซีซาร์ป่วยเพิ่งตายไป ซีซาร์คงแปลกใจที่อยู่ ๆ แม่หายไปไหนก็หงอยไปเลย

บวกกับซีซาร์เป็นมะเร็งต้องไปทำคีโม ค่าเลือดค่าไตก็ไม่ค่อยดี ทำให้สภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง หมอแนะนำว่าให้พาออกกำลังบ้างจะได้แข็งแรงขึ้น ก็เพิ่งพาออกมาเดินได้ไม่กี่วันแล้วก็กลัวว่าซีซาร์จะไปกวนคนที่ออกมาเดินมาวิ่งตอนเช้า เลยออกมาตั้งแต่มืดแบบนี้ (เป็นที่มาว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอซีซาร์มาก่อน เพิ่งมาเจอกันครั้งแรกวันนี้เอง)

สภาพซีซาร์ตอนที่เจอกันวันแรกยังดูโรย ๆ เหมือนไม่ค่อยแข็งแรง ขนตรงช่วงหลังถูกโกนไปหย่อมใหญ่ ๆ น่าจะเพราะการรักษามะเร็ง แล้วท่าทางก็ยังดูตื่น ๆ เหมือนหมาที่ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ยังไม่ชินกับโลกข้างนอก

ก็ยืนคุยแล้วก็เล่นกันอยู่พักใหญ่ (หมายถึงยืนคุยกับพี่เจ้าของ เล่นกับซีซาร์นะ ไม่ใช่ยืนคุยกับซีซาร์แล้วเล่นกับพี่เจ้าของ เข้าใจตรงกันนะ) แล้วก็กลับมาวิ่งต่อ วิ่งได้รอบสองรอบก็วนมาเจอกันอีก ก็หยุดเล่นกันอีก วนลูปอยู่ยังงี้จนพี่เค้าพาซีซาร์เข้าบ้าน

ก็ยังคิดอยู่ว่าถ้ามีโอกาสได้เจอได้เล่นกันอีกก็คงดี แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ออกไปวิ่งตอนเช้าอีก เพราะในหมู่บ้านมีคนติดโควิด แล้วต่อด้วยฝุ่นก็เริ่มมา เลยได้แต่ออกกำลังกายก๊อก ๆ แก๊ก ๆ อยู่ในบ้าน

จนวันก่อนสถานการณ์โควิดในหมู่บ้านเริ่มซา ค่าฝุ่นก็ดีเลยได้โอกาสออกไปวิ่งอีกที งวดนี้ติดกล้องไปด้วย เผื่อว่าเจอซีซาร์จะได้ถ่ายรูปมาให้แม่พดด้วงดู ก็ยังคิดอยู่ว่าจะได้เจอกันมั้ย เพราะออกไปเกือบหกโมงแล้ว แต่วิ่งไปได้สองรอบก็เจอพี่เจ้าของจูงซีซาร์ออกมา

เจอกันครั้งนี้ซีซาร์ดูดีกว่าครั้งแรกเยอะเลย ดูแข็งแรงขึ้น ลายสายจูงนำหน้าเจ้าของมาเลย แถมพอเจอกันก็แกว่งหางแรงจนสะโพกส่าย

หลังจากซีซาร์ไปฉี่เรียบร้อย วิ่งวนกลับมาเจอกันอีกที คุยกันไปคุยกันมา พี่เจ้าของบอกว่า ตอนนี้ซีซาร์แข็งแรงขึ้น แต่ก็ไม่มีแรงพาวิ่ง ได้แต่พาเดิน พี่ก็เลยได้ที เสนอตัว เดี๋ยวพาวิ่งให้เอง เขาทำท่าเกรงใจ เราก็ว่าไม่ต้องเกรงใจ แล้วพี่ก็เล่าเพิ่มว่า ปกติซีซาร์จะไม่เดินกับคนแปลกหน้า อันนี้ไม่มีปัญหา ไม่รู้จักบวกผู้เป็นมิตรกับหมามากกว่าเด็กซะแล้ว (นี่คิดในใจ ไม่ได้พูดไป)

พี่เค้ายื่นสายจูงให้ เราก็เรียกซีซาร์เดินตามมาก่อน ก็มาเว้ย พอเดินไปได้สักพักหันไปบอกพี่เค้าว่า จะลองพาวิ่งแล้วนะ เค้าก็โอเค ก็เรียกซีซาร์แล้วเริ่มพาวิ่ง ซึ่งก็เป็นที่มาของคลิปนี้นะฮะ

หมายเหตุ คลิปนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นคลิป ๑๒ นาทีที่มีแต่คนพาหมาวิ่งทั้งคลิป อ้อ มีช็อตที่แม่งดื้อด้วยนะ สมกับเป็นลาบราดอร์ แม่งดื้อได้ใจมาก ถ้าเป็นหมาพี่นี่มึงโดนซักตุ้บแน่ ๆ 5555 เลิฟ เลิฟ

Choco the Labrador

เมื่อวันก่อนฝนตกแล้วหยุด ตกแล้วหยุด เป็นยังงี้ทั้งวัน ไม่มีจังหวะให้ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายมั่งเลย

พอช่วงเย็นซักหกโมงเห็นอากาศเริ่มดี ก็เลยออกมาเดินเล่นรับลมในหมู่บ้าน งวดนี้ไม่ผิดหวังเจอลูกหมาลาบราดอร์ที่เจ้าของพาออกมาพอดี

โปรดสังเกตความเปรตของมัน ซึ่งอาการนี้แหละคือตัวยืนยันว่าแม่งเป็นพันธุ์แท้… 🐕❤️

ที่มาของชื่อ พดด้วง

วันนี้วันเกิดพดด้วง

ถ้าพดด้วงยังอยู่จะอายุครบยี่สิบพอดี อายุเท่านี้ถ้าเป็นคนก็กำลังหนุ่มแน่น แต่เป็นหมานี่ก็หง่อมเป็นคุณปู่ล่ะนะ

โอกาสนี้ขออนุญาตเล่าเรื่องพดด้วงซักเรื่อง เป็นเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน คือที่มาของชื่อ “พดด้วง”

เท้าความสักนิด ต้องบอกก่อนว่าชีวิตนี้ตั้งแต่จำความได้มีหมาอยู่ที่บ้านตลอด ตัวเดียว สองตัว สามตัว บางช่วงสี่ตัวก็มี เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมาตั้งแต่เด็ก

ทีนี้พอเรียนจบ นั่งรถทัวร์เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร ต้องไปอาศัยเขาอยู่บ้าง เช่าหออยู่บ้าง ทั้งฐานะและความเป็นอยู่ไม่พร้อมให้เลี้ยงหมาได้เลย เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไป ก็ได้แต่อาศัยเล่นกับหมาชาวบ้านมั่ง ทักทายหมาวัดหมาจรจัดอะไรมั่ง พอให้แก้ขัดกันไป

ช่วงสองสามปีระหว่างนั้นถึงจะไม่ได้เลี้ยงหมา แต่ก็คิดแพลนล่วงหน้าไว้แล้วว่าถึงช่วงนึงของชีวิต มีบ้าน มีเวลาพร้อมกุจะเลี้ยงหมาซักสามตัว

นึกถึงภาพตัวเองมีหมาล้อมหน้าล้อมหลัง ว่าง ๆ ก็ดึงไข่หมาเล่น ฮู้ยยยยย แฮปปี้!! มีกำลังใจไปทำงาน

คิดไว้ขนาดนี้ก็ไม่พลาดที่จะคิดชื่อหมารอไว้ล่วงหน้าเลยทั้งสามตัว จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นได้แรงบันดาลใจจากอะไร แต่ตั้งใจว่าอยากได้ชื่อให้มันไทย ๆ หน่อย

สรุปออกมาได้สามชื่อ เก็บไว้ในใจไม่เคยบอกใคร

ทองแถม – ทองทศ – พดด้วง

เวลาผ่านไปอีกพักนึง ย้ายที่พักไปเช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่กับรุ่นพี่ที่บริษัท จังหวะดีที่บ้านพี่มีหมาคลอดลูกมาครอกนึง ก็เลยไปขอมาเลี้ยง เป็นหมาไทยลายเสือ ตัวผู้ ได้ชื่อไปว่า ทองแถม เรียกสั้น ๆ ว่า ไอ้แถม

ไอ้แถมเป็นหมาที่มาก่อนยุค social network ไม่งั้นมันน่าจะเป็นที่รู้จักในแวดวงเพื่อนฝูงมากกว่านี้ วีรกรรมของไอ้แถมก็พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่วาระของวันนี้

เลี้ยงไอ้แถมมาได้ซักปีสองปีต้องย้ายออกมาเช่าหออยู่ ก็เลยพาไอ้แถมขึ้นไปอยู่เชียงใหม่กลายเป็นหนุ่มเชียงใหม่ยาวไป

หลังจากนั้นถึงจะย้ายมาอยู่ทาวน์เฮ้าส์แล้วแต่ก็เจอวิกฤตต้มยำกุ้งเข้าให้ อย่าว่าแต่เลี้ยงหมาเลย ตัวเองแม่มยังจะเอาไม่รอด

พอสถานการณ์ดีขึ้นจะเลี้ยงหมาอีกที (เรื่องราวการไปเจอพดด้วงนี่เล่าได้อีกตอน ดวงมันจะได้มาอยู่ด้วยกัน ไม่รู้เป็นโชคหรือเคราะห์ของไอ้ด้วงกันแน่ 5555)

ได้มาแล้วต้องตั้งชื่อ ถ้าจะตามลำดับตัวนี้ก็ต้อง ทองทศ แต่พอดีช่วงนั้นคุณทองแดงดังมาก เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ รวมไปถึงชื่อลูก ๆ ที่เป็น ทองทั้งหลายด้วย

เราก็เลยไม่เอาดีกว่า ขยับข้ามไปอันดับนึงละกัน แทนที่จะชื่อทองทศ ก็เลยได้มาเป็น พดด้วง นี่แหละ… ❤️

น้องขาว โป่งแยง จากเมื่อครั้งไปงานวิ่ง PYT100 / 2019

ไปเจอน้องขาวที่โป่งแยง เชียงใหม่ เมื่อครั้งไปงานวิ่ง PYT100 / 2019 เมื่อปลายปีที่แล้วนั่นแหละ (อ่านรีวิวงานวิ่งที่ว่าได้ที่นี่ -> บันทึก PYT100 / 2019 : ใครอกหักที่ A12 มากองกันตรงนี้ )

 

การแสดงหมาไทยพันทางที่งานนาวิกโยธิน มาราธอน ๒๐๑๘

วันก่อนไปวิ่งที่งานนาวิกโยธิน มาราธอน ๒๐๑๘ ช่วงเย็นก่อนที่จะวิ่งวันนึงมีการแสดงสุนัขทหาร มีตัวนึงเป็นหมาไทยพันทาง ชื่อว่า เต้าหู้ ฉลาดมาก ความสามารถไม่แพ้หมาฝรั่งเลย ล้างความเชื่อที่ว่าหมาไทยฝึกไม่ได้ไปเสียที ลองดูตามคลิปนะครับ

คลิปแรกนั่นเบาะ ๆ คลิปที่สองนี่ต้องร้องว้าวเลยนะฮะ…

แม่พดด้วงลงงานวิ่งครั้งแรก

RunforWheels

เมื่อวานนี้แม่พดด้วงไปลงงานวิ่งครั้งแรก!!

[ในฐานะพ่อบ้านที่บิลต์คุณภรรยาให้ลุกขึ้นมาออกกำลังกายได้ เริ่มจากการเดินตอนเย็นวันเสาร์อาทิตย์ จนมาถึงลงงานวิ่งระยะมินิ (๑๐.๕ กิโลเมตร) ได้ นี่เป็นความปลื้มปริ่มส่วนตัวเป็นอย่างมาก]

งานวิ่งที่ว่าชื่อว่างาน Run for Wheels วิ่ง ให้หมาได้ วิ่ง เป็นงานวิ่งการกุศลที่เอารายได้บริจาคให้มูลนิธิ ศ.ดร.จักร พิชัยรณรงค์สงคราม ซึ่งจะใช้ในการผลิตวีลแชร์สำหรับหมาพิการ เพื่อให้เดินได้สะดวกขึ้น

ก่อนลงวิ่งงานนี้แม่พดด้วงเตรียมตัวฝึกซ้อมมาเดือนกว่า ๆ วิ่งซ้อมเก็บระยะจริงเพื่อให้มั่นใจว่าวันจริงจะวิ่งได้ครบระยะ ไม่มีหยุดเดิน แล้วก็ไม่เจ็บแน่ ๆ

เมื่อวานเราตื่นตีสี่ เพื่อออกเดินทางไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จอดรถเสร็จเดินต่อไปที่โรงพยาบาลสัตว์ ที่เป็นจุดจัดงาน จุดสตาร์ตและเส้นชัย ก่อนปล่อยตัวก็มีการวอร์มกันเล็ก ๆ น้อย ๆ สลับกับเล็งหมาสารพัดสายพันธุ์ที่เจ้าของพามาวิ่งด้วย มีตั้งแต่ตัวเล็กกว่ากำปั้นอย่างชิวาว่า ไปจนถึงตัวใหญ่บิ๊กบึ้มอย่างไซบีเรียนและลาบราดอร์ โดยเราอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าพดด้วงยังอยู่และถ้าเราพามันมางานนี้คงสนุกแน่ แม่มคงป่วนงานเขากระจุยแหง ๆ 5555

ตอนหกโมงปล่อยตัวนักวิ่งชุดแรก (ระยะมินิ) แม่พดด้วงไปวิ่ง เราก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยส่องนักวิ่ง เฮ้ย หมาที่มาวิ่งไปพลาง ๆ ระหว่างที่เขาทยอยปล่อยตัวนักวิ่งทีละชุด

จนใกล้เวลาตามที่แม่พดด้วงซ้อมเอาไว้ก็ไปยืนรอที่เส้นชัย รอถ่ายรูปจังหวะเข้าเส้นชัยไว้เป็นที่ระลึก ก่อนแม่พดด้วงเข้ามาแป๊บนึงมีนักวิ่งสาวขาววิ๊งมากจูงหมาวิ่งเข้ามา แล้วคนแถวนั้นก็วงแตกวิ่งมาถ่ายรูปน้องคนนี้กันใหญ่ เราก็งง ใครวะ

ดูดี ๆ สักพักถึงรู้ว่า แพนเค้ก

ก็ถือว่า เป็นเรื่องราวดี ๆ ของเมื่อวานนี้นะ

พดด้วง ออน เดอะ บีช

090

เมื่อหลายปีก่อนมีโอกาสพาพดด้วงไปปราณบุรี เป็นการไปเที่ยวทะเลครั้งแรกของพดด้วงหลังจากที่ขึ้นเหนือไปรับอากาศหนาวมาแล้วหลายครั้ง ภาพชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จากการไปทะเลครั้งนั้น

051
ครั้งแรกที่ลงไปชายหาด คุณพี่ไปผูกมิตรกับเจ้าถิ่นก่อน

052
แล้วบังเอิญว่าเจ้าถิ่นเป็นตัวเมีย ก็เลยเกิดการขอสำรวจกันนิดนึง

082
ตอนนี้หลังจากลงเล่นน้ำทะเลมาแล้วก็ขึ้นมาพักผ่อนอิริยาบถ

083
แต่ เอ๊ะ นอนคลุกแล้วสนุกดีนี่หว่า ที่บ้านไม่มีอย่างนี้ให้เล่น เอาซะหน่อย

089
สภาพก็เลยเป็นอย่างนี้แหละครับ