สภาพรองเท้าวิ่ง Pan Predator Marathon ระยะ ๗๔๒ โล

PanPredatorMarathonLeft

ก่อนหน้านี้เคยโพสต์รีวิวรองเท้า Pan Predator Marathon พร้อมรูปตอนแกะกล่องสภาพปิ๊ง ๆ เหลืองสดใส (ตามภาพด้านบน) กับหลังใช้งาน ๓๐๐ โลไปแล้ว (อ่านรีวิวและดูรูปได้ที่นี่นะฮะ https://buak.net/2017/11/19/review-pan-predator-marathon-running-shoes/ ) เมื่อวันก่อนใช้ไปครบระยะ ๗๔๒ โล เลยเอามาให้ดูกันอีกทีว่าสภาพพื้นรองเท้ายังเหลืออยู่แค่ไหน เผื่อเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจของคนที่กำลังลังเลว่าจะซื้อยี่ห้ออะไรดี หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะ มาดูกัน

เริ่มด้วยข้างซ้าย ดูเต็ม ๆ ก่อน

Pan Predator Marathon Yellow

ต่อมาก็ช่วงหน้าเท้า

Pan Predator Marathon Yellow

ตามด้วยช่วงส้นเท้า

Pan Predator Marathon Yellow

ทีนี้มาดูข้างขวาบ้าง

Pan Predator Marathon Yellow

อันนี้เป็นหน้าเท้าข้างขวา

Pan Predator Marathon Yellow

ต่อด้วยส้นเท้าจ้ะ

Pan Predator Marathon Yellow

ต้องบอกไว้ก่อนว่า สภาพที่เห็นนี่เกิดจากการใช้วิ่งบนถนนคอนกรีตในหมู่บ้านอย่างเดียวนะฮะ ไม่ได้ใช้วิ่งลงคอร์ต ลูกรัง ลาดยาง หรืออย่างอื่นเลย คอ-นก-รีต เฮ้ย คอนกรีตล้วน ๆ ส่วนลักษณะการสึกจะเป็นด้านนอก ด้านใน หน้าเท้า ปลายเท้าอะไรก็คงแล้วแต่การลงเท้าของแต่ละคน ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันครับ ❤

วิ่งฝ่าฝนที่สวนรถไฟ-สวนจตุจักร

วิ่งสวนรถไฟ-สวนจตุจักร

วิ่งเมื่อวานโพสต์วันนี้ เช้าเมื่อวานพอมีเวลา ตื่นตีสี่มาซ้อมวิ่ง แถมสบโอกาสดีเลยออกมานอกสถานที่ดี๊ด๊า วิ่งอยู่สวนรถไฟ ทะลุมาสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ออกไปสวนจตุจักร วิ่งวนไปมา (หลงทางป่าววะกรู)

ตั้งใจไว้ ๑๗ โล วิ่ง ๆ อยู่ฝนตก แรก ๆ ก็โปรยปรายชุ่มฉ่ำดี ก็ยังวิ่งต่อได้ อยู่ไปชักแรงขึ้น นี่กรูมาวิ่งนะไม่ได้มาอาบน้ำฝน สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัวก็ไม่ได้เอามา ดูทรงสักพักเห็นว่าฝนไม่น่าจะหยุด งั้นกรูหยุดเองก็ได้ สรุปเลยได้แค่เกือบ ๆ ๑๔ โล

ชีวิตมันก็อย่างนี้ อะไรที่เราคิดเราหวังไว้มันก็อาจไม่ได้อย่างที่หวังเสมอไปนะ สาธุ

#รักใครให้ชวนมาวิ่ง

วิ่งฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก : ศิริราช เดิน-วิ่ง ผสานชุมชน ครั้งที่ ๑๒

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Medals

เมื่อเช้าไปปักหมุดหมายใหม่ให้กับการวิ่งของตัวเองมาครับ หลังจากที่ประเดิมงานวิ่งครั้งแรกไปแล้วด้วยงาน Samsung Galaxy 10K Thailand Championship 2018 (ตามที่เล่าไปแล้วในโพสต์นี้) ครั้งนี้เป็นการลงงานวิ่งครั้งที่สองและเป็นการวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก ที่งาน ศิริราช เดิน-วิ่ง ผสานชุมชน ครั้งที่ ๑๒ เป็นงานการกุศลที่ทางโรงพยาบาลศิริราชจัดขึ้นและจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ ๑๒ แล้ว โดยที่ครั้งนี้มีเพิ่มระยะฮาล์ฟมาราธอนเป็นครั้งแรก

เมื่อวานวันเสาร์ฝนกระหน่ำกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ายาวไปยันค่ำ ทำเอาใจไม่ดี บอกเทวดาว่าถึงจะอยากไปบอสตัน มาราธอนแต่ก็ยังอีกนาน ไม่ต้องมาให้ลองบรรยากาศบอสตันตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้นะ (เว้ย) ใจนี่คิดอยู่ว่าจะได้ไปวิ่งมั้ย ถ้าไปแล้วเจอฝนจะต้องยังไง ฝนขนาดไหนถึงจะหยุดวิ่ง ดูข้อมูลจากแอปจากเว็บพยากรณ์อากาศก็บอกเหมือนกันหมดว่าเจอฝนแน่นอน แล้วตลอดทั้งวันที่กังวลอยู่นี่มีแต่คุณภรรยาที่ดีใจ อยากให้ฝนตกตอนวิ่ง บอก ไม่ได้เล่นน้ำฝนมานานแล้ว (เอ็งไปเล่นตอนไหนก็ได้มั้ย? -> นี่คิดในใจ 5555)

พอหยั่งงี้เลยต้องเตรียมตัว ต้องเอาหมวกไปด้วย แถมรองเท้าก็เปลี่ยนใจทีแรกจะเอา altra escalante boston ไป หลังจากงาน Samsung 10K ก็ซ้อมคู่นี้ตลอด แต่ถ้าจะเจอฝนขอเปลี่ยนเอา newton ไปดีกว่า ใส่แล้วดูมั่นใจว่าช่วยล็อกเท้าได้แน่นหนาดี

ตอนเช้าตื่นตั้งแต่ตีสอง เมื่อวานโหลดคาร์บไปแล้วด้วยพิซซ่าหนึ่งถาด ตามด้วยมะละกออีกครึ่งลูก แต่เพื่อความมั่นใจเพราะวิ่งฮาล์ฟครั้งแรก กลัวหมดแรงกลางทาง เช้านี้เลยจัดเดนิชลูกเกดอีกสองชิ้น ตามด้วยน้ำเต้าหู้อีกแก้ว กินเสร็จรู้สึกแน่น ๆ ยังคิดอยู่ว่า นี่กูกินมากไปมั้ย (วะ)?

ไปจอดรถที่วัดอมรินทรฯ (หลวงพ่อโบสถ์น้อย) แล้วเดินถึงงานก่อนเวลาพอสมควร มีเวลาได้วอร์มเป็นเรื่องเป็นราวไม่เหมือนงาน Samsung 10K ระหว่างวอร์มก็ว่า ทำไมคนมองมาข้าง ๆ เราเยอะจังวะ หันไปดู อ้าว พี่เมฆ วินัย ไกรบุตร มางานนี้ด้วย

มาวิ่งวันนี้ตั้งเป้าสองข้อ คือ จบไม่เจ็บ (ยังไงก็ต้องจบ ไม่ไหวก็ต้องลากสังขารเดินให้จบ เพราะคุณภรรยาจบฮาล์ฟมาแล้วครั้งนึง ถ้าครั้งแรกนี่ DNF แม่มโดนหยามไปจนถึงงานหน้าแน่ ๆ ) และขอจบด้วยเพซไม่เกิน ๗ จะ ๖:๕๙ ก็ได้ไม่ว่ากัน ตั้งใจว่าจะวิ่งด้วยเพซเจ็ดบวกลบนิด ๆ ไปซัก ๑๕ โล แล้วที่เหลือค่อยเร่งให้จบเร็วกว่า ๗ คิดว่าน่าจะเอาอยู่

ปล่อยตัวตอนตีสี่ วิ่งออกจากโรงพยาบาลทางด้านวังหลังแล้วยิงยาวไปสามแยกไฟฉาย ช่วงแรกคนเยอะก็สปีดหนีกันน่าดู ก้มดูนาฬิกา ชิ_หาย เพซห้ากว่า ไม่ได้ ไม่ได้ เดี๋ยวหมด วิ่งไม่จบ ต้องผ่อนลงหน่อย วิ่งไปสักพักเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี แน่น ๆ ท้อง แถมเลี่ยนเบเกอรี่ที่กินมาเมื่อเช้าด้วยแต่ก็วิ่งประคองไป

จนระยะสามโลกว่าสิ่งที่ไม่เคยเกิดตอนวิ่งและไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดจนได้ แม่ม Murphy’s Law จริง ๆ นั่นคือ ปวดขรี้ครับพี่น้องครับ วิ่งมาหลายปีไม่เคยมีปัญหานี้ แล้วมึงต้องมาเจอครั้งแรกตอนลงงานวิ่งเนี่ยนะ

พยายามหายใจลึก ๆ วิ่งประคองมาจนถึงจุดจอดรถพยาบาลที่กิโลฯ ที่สี่ มีรถสุขาจอดอยู่เลยวิ่งไป ปรากฎว่าท้องเสีย สงสัยจะเป็นเพราะมะละกอ กว่าจะเสร็จเสียเวลาไปประมาณสิบนาที

วิ่งต่อมาสักพักเจอคุณภรรยา (อีกแล้ว ตอนงาน Samsung ก็เจอ) เลยวิ่งไปเทียบ นั่นก็ถามว่า ทำไมเพิ่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยบอกว่า ไปขรี้มา ท้องเสีย แล้วก็ขอไปก่อนล่ะนะ ทำเวลาคืนหน่อย

วิ่งมาดูเพซมาเรื่อย ๆ อยู่ที่หกกว่า เอาไงดีวะ นี่ผิดแผนไปหน่อย สองจิตสองใจกลัวหมดตั้งแต่โล ๑๖ – ๑๗ อีกใจก็คิดว่า ไม่เป็นไรเปลี่ยนจากที่จะสปีดตอนท้ายมาเป็นตอนนี้แทนแล้วช่วงท้ายประคองเอาเท่าที่ได้ละกัน สรุปวิ่งแม่มเพซนี้ล่ะ ไปวัดกันอีกทีว่าจะหมดมั้ย

วิ่งมาได้อีกหน่อย เจอสะพานข้ามแยก กำลังขึ้นสะพานเหนื่อย ๆ เจอคนวิ่งสวนกลับมาแล้ว อัดคู่กันมาเลย ไม่มีใครนำใคร ชิ_หาย ก้มดูระยะเพิ่งได้เจ็ดโลครึ่ง คำนวณไปอีกสามโลถึงจุดกลับตัว กลับมาอีกสามโล เท่ากับตอนนี้คนนำวิ่งไปแล้ว ๑๓ โลครึ่ง เหยดดดดดดดดด…

เออ ตรงนี้ประทับใจ จังหวะที่นักวิ่งกลุ่มนำวิ่งสวนกลับมา นักวิ่งที่กำลังวิ่งอยู่มีปรบมือให้กำลังใจด้วยนะ นี่ก็ปรบกับเขาด้วย

ผ่านสะพานข้ามแยกอันแรกไปแล้ว ต่อไปอีกหน่อยเจอสะพานที่สอง ตอนไต่ขึ้นไปไม่ได้คิดถึงโมเมนต์ตอนนี้เลย คิดเผื่อไปตอนขากลับว่า ขากลับกูจะเหนื่อยกว่านี้ แล้วกูจะรอดมั้ย ฮ่าาาาา

วิ่งไปก็นึกไป ทำไมไม่ถึงจุดกลับตัวซะทีวะ เหมือน ๆ จะถึงแต่ก็ไม่ถึง ใครแม่มย้ายจุดไกลออกไปหรือเปล่าวะ (ใครแม่มจะย้ายวะ?) แถมยังมีนักวิ่งกลับตัวมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ใจก็ฝ่อไปหน่อย พอมาถึงจุดกลับตัวที่โล ๑๐.๕ ดูเพซเฉลี่ยได้ ๖:๓๔ อ้าว โอเคอยู่เว้ย ยังได้อยู่ ใจชื้นขึ้นมานิดนึง

มาถึงโลที่ ๑๓ อาการเจ็บเข่าขวาเริ่มมา เวลาวิ่งผ่านจุดพยาบาลก็แวะขอให้ฉีดสเปรย์ช่วย วิ่งผ่อนลงหน่อย เพซเฉลี่ยค่อย ๆ ขยับขึ้นมาเป็น ๖:๓๗ ไล่มา ๖.๔๑ ก็ยังไหววะ

ขากลับมาเจอสะพานข้ามแยกอันสุดท้ายใจนี่อยากเดินเลย แต่ฝืนใจก้าวสั้น ๆ ขึ้นไป ไอ้ขาขึ้นว่าเหนื่อยแล้ว เจอขาลงนี่อย่านึกว่าสบาย เกร็งขากันน่าดู โฮ้ยยยยย นี่กูมาทำอะไร

มาถึงโลที่ ๑๙ อาการเข่าขวายังมีอยู่แต่กำลังใจยังดี ยิ่งมาถึงสามแยกไฟฉายใจยิ่งมาเลย เหลืออีกนิดเดียวแล้วเว้ย ตั้งใจว่ากูจะเร่งล่ะนะ จะได้จบสวย ๆ เหมือนตอน Samsung 10K แต่ไม่ไหว เร่งได้นิดเดียวก็หมด เลยประคองเพซมาจนเข้าเส้นชัย กดนาฬิกาดู เออ เว้ย ได้เพซ ๖:๕๐ ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Finisher Shirt

งานนี้ตอนที่วิ่งค่อนข้างดี ปิดการจราจรบางส่วน (อันนี้เข้าใจ วิ่งในกรุงเทพฯ ก็อย่างนี้แหละ) แต่เจ้าหน้าที่กับตำรวจจราจรดูแลตลอดเส้นทาง มีรถพยาบาลพร้อม สเปรย์มีบริการ จุดให้น้ำให้น้ำเกลือแร่ตลอดเส้นทาง จะมีติดนิดนึงคือบางช่วงจะมืดไปหน่อยกับเส้นทางบางจังหวะจะแคบไปนิด

ที่น่าจะต้องปรับปรุงหน่อยก็คือ ช่วงหลังเข้าเส้นชัย ที่ปริ้นต์ผลการวิ่งเสีย ปริ้นต์ไม่ได้ และพื้นที่โซนอาหารแคบไปนิดเมื่อเทียบกับจำนวนนักวิ่ง เลยติดขัดและแออัดกันพอสมควร

แต่รวม ๆ ถือว่าโอเค ปีหน้าเจอกัน (ถ้าสมัครได้นะ) …

Siriraj Walk & Run 2018 Half Marathon Route

ทำไมใคร ๆ ก็อยากจะไป Boston Marathon

ก่อนการแข่งขัน 2018 Boston Marathon จะเริ่มขึ้นในคืนนี้ (ประมาณสี่ทุ่ม เวลาในประเทศไทย) ลองมาดูกันว่า ทำไมใครต่อใครถึงอยากไปกันนัก ไอ้ Boston Marathon เนี่ย

คำตอบสั้น ๆ ก็คือ รายการนี้เป็นหนึ่งในหกการแข่งขันมาราธอนรายการใหญ่ของโลก (โตเกียว / บอสตัน / ลอนดอน / เบอร์ลิน / ชิคาโก / นิวยอร์ก) และเป็นรายการที่จัดแข่งมานานที่สุดในโลกคือ ร้อยกว่าปีแล้ว (ปีนี้เป็นครั้งที่ ๑๒๒)

เรียกว่า สนามนี้แม่มโคตรขลัง

อีกอย่างที่ทำให้ใครต่อใครที่ได้ไปวิ่งรายการนี้ภาคภูมิใจก็คือ การจะลงแข่งได้ต้องไปด้วย “ลำแข้ง” ของตัวเองโดยแท้ (ไม่นับพวกสปอนเซอร์ที่ได้สิทธิ์พิเศษนะ) ด้วยการส่งสถิติเวลาการวิ่งของตัวเองจากสนามที่ทาง AIM (Association of International Marathons and Distance Races) และ IAAF (International Association of Athletic Federations) รับรอง เพื่อไปจัดอันดับและตัดตัว ซึ่งเวลาที่ว่านี้ไม่ง่ายเลย

มาดูเวลาของปีนี้กัน ในส่วนของผู้ชาย ต้องทำเวลาได้อย่างช้าที่สุดตามนี้

อายุ ๑๘ – ๓๔ -> ๓:๐๑:๓๗ ชั่วโมง
๓๕ – ๓๙ -> ๓:๐๖:๓๗ ชั่วโมง
๔๐ – ๔๔ -> ๓:๑๑:๓๗ ชั่วโมง
๔๕ – ๔๙ -> ๓:๒๑:๓๗ ชั่วโมง
๕๐ – ๕๔ -> ๓:๒๖:๓๗ ชั่วโมง
๕๕ – ๕๙ -> ๓:๓๖:๓๗ ชั่วโมง
๖๐ – ๖๔ -> ๓:๕๑:๓๗ ชั่วโมง
๖๕ – ๖๙ -> ๔:๐๖:๓๗ ชั่วโมง
๗๐ – ๗๔ -> ๔:๒๑:๓๗ ชั่วโมง
๗๕ – ๗๙ -> ๔:๓๖:๓๗ ชั่วโมง
๘๐+ -> ๔:๕๑:๓๗ ชั่วโมง

ส่วนเวลาของผู้หญิงก็ต้องได้อย่างช้าตามนี้

อายุ ๑๘ – ๓๔ -> ๓:๓๑:๓๗ ชั่วโมง
๓๕ – ๓๙ -> ๓:๓๖:๓๗ ชั่วโมง
๔๐ – ๔๔ -> ๓:๔๑:๓๗ ชั่วโมง
๔๕ – ๔๙ -> ๓:๕๑:๓๗ ชั่วโมง
๕๐ – ๕๔ -> ๓:๕๖:๓๗ ชั่วโมง
๕๕ – ๕๙ -> ๔:๐๖:๓๗ ชั่วโมง
๖๐ – ๖๔ -> ๔:๒๑:๓๗ ชั่วโมง
๖๕ – ๖๙ -> ๔:๓๖:๓๗ ชั่วโมง
๗๐ – ๗๔ -> ๔:๕๑:๓๗ ชั่วโมง
๗๕ – ๗๙ -> ๕:๐๖:๓๗ ชั่วโมง
๘๐+ -> ๕:๒๑:๓๗ ชั่วโมง

คนจัดงานนี่มึงซาดิสม์หรือเปล่า? คนเฒ่าคนแก่ก็ยังไม่เว้น ขนาดคนวัยเพิ่งเกษียณยังต้องวิ่ง sub 4 แล้วคนแก่อายุ ๘๐ เนี่ยยังต้องมาควอลิฟายด้วยเหรอ ให้คุณปู่คุณย่าเขาลงได้เลยไม่ได้เหรอวะ

ด้วยเหตุนี้นะครับ ใครต่อใครก็เลยอยากไป Boston Marathon กัน และปีนี้มีคนไทยที่ได้ลงแข่งทั้งหญิงและชายรวม ๑๔ คนด้วยกัน

สำหรับตัวเอง พอเห็นเวลาควอลิฟายแล้วยิ้มเลย บอกได้เลยว่า ไม่กังวล

เพราะที่กังวลอยู่ตอนนี้คือ กูจะวิ่งให้จบฟูลฯ ได้ยังไง อย่าเพิ่งมาพูดกันเรื่องเวลา…

หมายเหตุ รายการมาราธอนของไทยที่ใช้ยื่นสมัคร Boston Marathon ได้เท่าที่ลองเช็กมามีหกรายการ คือ จอมบึงมาราธอน กรุงเทพมาราธอน ขอนแก่นมาราธอน ลากูนาภูเก็ตมาราธอน บางแสนมาราธอน และบุรีรัมย์มาราธอน ใครอยากไป Boston ปีหน้าก็จัดเต็มในหกรายการนี้ได้เลยครับ 🙂

ประสบการณ์ลงงานวิ่งครั้งแรก : Samsung 10K Thailand Championship 2018

10k Thailand Championship 2018 medals

เมื่อเช้าตื่นเร็วกว่าปกติ ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสาม เพราะวันนี้มีลงงานวิ่ง Samsung 10K Thailand Championship 2018 เป็นงานวิ่งงานแรกตั้งแต่ที่เริ่มวิ่งมาสามสี่ปี

ตื่นปั๊บก็เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกมากินข้าวเหนียวหมูทอดตุนไว้นิดนึง กล้วยน้ำว้าอีกใบ น้ำเต้าหู้อีกแก้ว (ตอนแรกกลัวไม่พอ แต่พอกินไปแล้วเกิดเอ๊ะ มันเยอะไปมั้ยวะ? กูจะจุกมั้ยเนี่ย) แล้วอาบน้ำแต่งตัว ใช้เวลาไม่นานเพราะเสื้อกางเกง รองเท้าถุงเท้าเตรียมรอไว้แล้ว บิบก็ติดเอาไว้เรียบร้อย วันนี้เอารองเท้า Newton ไปใช้ จากความประทับใจที่ใส่วิ่งสิบโลทำเวลาทะลุ ๖๐ นาทีลงมาได้ ด้วยความหวังว่าวันนี้จะทำได้อีก สาธุ 🙏

ขับรถมาจอดที่สยามสแควร์ เลือกที่นี่จากหลาย ๆ ที่ที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ เพราะคิดว่าน่าจะมีที่จอดชัวร์ ไม่อยากไปเสี่ยงที่อื่น เกิดพลาดขึ้นมาจะเสียเวลา จอดเสร็จเดินมาสนามศุภชลาศัย เดินกันมากลุ่มใหญ่ อุ่นใจว่าไม่หลงแน่นอนเพราะคนมาวิ่งงานเดียวกันทั้งนั้น ถามว่า รู้ได้ไง? ใครจะไม่รู้ก็แต่งตัวเหมือนกันหมด ใส่เสื้องานกันมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่มาวิ่งงานนี้แล้วจะไปวิ่งที่ไหน

งานนี้ปล่อยตัวตีห้า กว่าจะผ่านจุดตรวจมาได้ก็เกือบตีสี่ครึ่งแล้ว ไหนยังจะต้องเข้าห้องน้ำ ต้องยืดเหยียดด้วย ก็เลยต้องรีบจ้ำ ทีแรกตั้งใจจะไปเข้าห้องน้ำที่เป็นรถห้องน้ำติดแอร์ที่ทางผู้จัดโพสต์ไว้ในเพจ แต่เข้ามาได้ซักหน่อยเจอคนยืนรอเข้าห้องน้ำกันอยู่เป็นห้องน้ำรวม คิวไม่ยาว ก็เลยเอาที่นี่ล่ะวะ ซึ่งคิดถูกจริง ๆ เพราะหลังจากนั้นเจอห้องน้ำแต่ละที่คิวยาวทั้งนั้นเลย

โผล่จากห้องน้ำมาเจอน้องหลง ที่ไม่เจอตัวเป็น ๆ กันมาสิบกว่าปีแล้ว เจอกันแต่ใน fb วันนี้ได้มาเจอกันหน้าห้องน้ำ ช่างเป็นจังหวะดีเสียนี่กระไร 5555

ทีนี้ก็รีบจ้ำไปบล็อกตัวเอง ก็ต้องแยกจากคุณภรรยาล่ะ เพราะเราอยู่บล็อก B คุณภรรยาอยู่บล็อก C เดี๋ยววิ่งเสร็จค่อยมาเจอกัน เดินไปถึงบล็อก โอย ใกล้ปล่อยตัวแล้วยังไม่ได้ยืดเหยียดเลย ทำแม่มตรงนี้ล่ะ ใครจะมองยังไงช่างมัน ถ้าไม่ทำก็กลัววิ่งแล้วเกิดเจ็บขึ้นมามันจะไม่คุ้มกัน

จากจุดที่ยืนมองไปที่จุดปล่อยตัว โห ไกลว่ะ ประเมินในใจแล้วว่า ชิ_หายแน่กูงานนี้ เป้าที่ตั้งไว้เห็นท่าจะเหลว เพราะก่อนมาตั้งเป้าไว้สามข้อ ข้อแรก จบไม่เจ็บ (ก็มาวิ่งให้แข็งแรง วิ่งแล้วเจ็บก็ผิดวัตถุประสงค์สิ ใช่มะ) ข้อสอง เวลาต่ำกว่า ๖๐ นาที อันนี้แหละที่คิดว่าน่าจะเหลว เพราะจากจุดที่ยืนอยู่กว่าจะไปถึงจุดสตาร์ตก็น่าจะนาทีกว่าแล้ว ต้องไปเร่งเอาคืนงี้ จะไหวเหรอ

ส่วนเป้าข้อสาม อยากติดอันดับ ๑,๐๐๐ คนแรกของผู้ชาย ข้อนี้เพื่อที่ว่าเผื่อปีหน้าจะลงจะได้ไม่ต้องไปแย่งกันสมัครอีก เพราะเขาให้โควต้าสมัครได้เลย

พอถึงเวลาปล่อยตัวก็จริงอย่างที่คิด กว่าจะไปถึงจุดสตาร์ตปาเข้าไปสองนาทีกว่า นี่เวลาหายไปเฉย ๆ เลย แล้วสองนาทีนี่ยากเลยนะ เลยเปลี่ยนใจ กูไม่เอา gun time ก็ได้วะ ขอ chip time ต่ำกว่า ๖๐ นาทีแทนแล้วกัน

พอเริ่มวิ่งก็มาติดคอขวดตรงประตูทางออกสนามศุภฯ นิดนึง ออกมาได้ก็ โฮ้ยยยยย คนทำไมมันเยอะหยั่งงี้ ปกติวิ่งคนเดียวในหมู่บ้านจะก้าวยาวก้าวสั้นไปซ้ายไปขวาไม่มีปัญหาไม่มีใครบัง นี่ต้องคอยหาจังหวะเสียบแซงขึ้นไป เก็บไปเรื่อย ๆ แต่ก็พยายามไม่เร่ง เพราะวางแผนไว้ว่าจะวิ่งประมาณเพซ ๖ บวกลบ ๕ วิไปซักเจ็ดโล (ถ้าเร่งตั้งแต่แรกกลัวหมดก่อนแล้วมันจะไม่ได้ตามเป้า) หลังจากนั้นค่อยเร่ง วิ่งไปก็คอยดูเพซไป กลัวหลุดไปเยอะตอนหลังจะเร่งไม่ไหว

วิ่งออกจากสนามศุภฯ เลี้ยวซ้าย แล้วมาเลี้ยวเข้าถนนบรรทัดทองวิ่ง ๆ อยู่มองไปข้างหน้าเห็นคนใส่ Escalante Boston 2018 ยังคิดว่าเดี๋ยวจะไปเล่าให้คุณภรรยาฟังว่าเจอคนใส่รองเท้ารุ่นเดียวกันด้วยนะ มองสูงขึ้นอีกหน่อย อ้าว ผู้หญิงด้วยว่ะ พอมองดี ๆ อ้าว เฮ้ย นี่ภรรยาเราตัวจริงเสียงจริง วิ่งยังไงมานำหน้าเราได้วะ ก็วิ่งไปเทียบให้รู้ตัวแล้วก็เร่งแซงมาก่อน

จากบรรทัดทองทะลุมาพระรามสี่ วิ่งมาอีกนิดเจอจุดรับน้ำจุดแรก วิ่งต่อไปจนถึงแยกอังรีดูนังต์ ซึ่งต้องเลี้ยวซ้ายไปจุดกลับตัว แต่มองไปข้างหน้าเห็นชุดที่วิ่งนำหน้ากลับตัวกันมาแล้วเยอะเลย ใจฝ่อไปนิดนึง กลับตัวเสร็จวิ่งมาถึงแยกศาลาแดงผ่านหน้าสวนลุมพินี ดูนาฬิกา ระยะสี่โลปลาย ๆ เวลา ๒๙ นาทีกว่า เอาวะ เวลาใช้ได้ น่าจะได้ต่ำ ๖๐ นาที

ผ่านสวนลุมฯ เลี้ยวเข้าถนนวิทยุ ตอนแรกที่เห็นเส้นทางวิ่งว่ามีวิ่งเข้าถนนวิทยุด้วยนี่ดีใจเลยนะ เพราะส่วนตัวชอบเส้นนี้มาก ต้นไม้ใหญ่แม่มเยอะ แล้วฟีลเขียวครึ้มดี แต่วันนี้วิ่งมามันยังมืดไง แล้วก็ต้องดูคนหลบคน ไม่ได้ดูวิวดูอะไรอย่างที่คิดเลย พอผ่านหน้าตึกสินธร ตลาดหุ้นเก่า ได้ระยะเจ็ดโล คิดในใจว่า เดี๋ยวพอพ้นวิทยุเลี้ยวเข้าเพลินจิตกูจะสับล่ะนะ พอเลยมาหน่อยผ่านโรงแรมพลาซ่า แอทธินี ของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บริษัท เอาวะ เร่งแม่มตั้งแต่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวไม่ทัน

ออกวิทยุมาเข้าเพลินจิต สับยาวมาแยกราชประสงค์ บอกเลยว่า Newton นี่พอได้สปีดได้จังหวะแล้ววิ่งสนุกจริง ๆ แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่วิ่งบนพื้นถนนลาดยาง ก่อนหน้านี้วิ่งอยู่แต่ในหมู่บ้านเป็นถนนคอนกรีต พอมาวิ่งถนนลาดยางแล้ว เฮ้ย พื้นมันนุ่มกว่าเว้ย

กำลังเร่งดี ๆ มาถึงแยกราชประสงค์ก็ต้องเสียจังหวะ เพราะติดไฟแดง ยืนรออยู่แป๊บนึง พอปล่อยตัวมาก็พยายามเร่งต่อให้ได้เพซเดิม แต่ก็ต้องใช้เวลาอยู่พักนึง แล้วมาติดอีกทีตรงแยกอังรีดูนังต์ที่จะวิ่งเข้าสยาม

ปล่อยมาครั้งนี้มีเท่าไหร่ต้องใส่หมดแล้ว ไม่งั้นไม่ได้ตามเป้าแน่ วิ่งยิงยาวมาถึงแยกมาบุญครอง เห็นน้องสต๊าฟทำท่าจะกั้นไฟแดงอีกเลยต้องรีบสปีด ขอพี่ไปก่อนนนนนนนนน ข้ามมาถึงหน้าสนามศุภฯ เห็นคนที่เข้าเส้นชัยก่อนหน้าเริ่มเดินออกมาแล้ว พอเข้าข้างในมีช่างภาพนั่งเก็บภาพอยู่ กูไม่เอาแล้วรูป พอถึงช่วงสุดท้ายที่วิ่งในลู่ ตอนนี้ยิ่งสับเลย ขอพี่ต่ำกว่า ๖๐ เถอะ พลีสสสสสส…

10K Thailand Championship 2018 medal

เข้าเส้นมาพอยืดเหยียดเสร็จไปเข้าคิวรอเช็คผล ตรงนี้คิวยาวเลย ระหว่างเข้าคิวเจอพี่มาก เฮ้ย พี่เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่เพิ่งมาเริ่มวิ่ง กำลังให้สัมภาษณ์คนถ่ายคลิปหรือ fb live ซักอย่าง เห็นพี่เมฆบอกเพิ่งมาวิ่งเดือนกุมภาฯ นี่เองนะ

จากเป้าสามข้อที่ตั้งไว้ ข้อแรกผ่าน จบไม่เจ็บ เพราะระยะสิบโลนี่เป็นระยะที่ซ้อมปกติอยู่แล้ว ข้อสองผ่านเพราะถึง gun time จะเกิน แต่ chip time ซึ่งเป็นเวลาวิ่งจริงยังได้อยู่ (๕๙:๕๔ นาที ฉิวเฉียดเลย) ส่วนข้อสาม ไม่ผ่าน เหลวเป๋วเลย อย่าว่าที่ ๑,๐๐๐ เลยนี่หลุดไปถึงที่ ๑,๘๕๖ เลยนะ ปีหน้าถ้าจะลงก็ต้องมาแย่งกันเหมือนเดิม (แต่คุณภรรยาได้!! ได้ที่ ๗๐๐ กว่าของกลุ่มผู้หญิง ปีหน้าไม่ต้องแย่งอ่ะ)

วิ่งวันนี้มีความรู้ให้เอาไปปรับปรุงเผื่อลงงานครั้งหน้าหลายข้อ ข้อแรก วิ่งในเมืองต้องเผื่อเวลาติดไฟแดงด้วย เพราะวันนี้โดนไปสองครั้ง ฟังดูก็เหมือนเล็กน้อย แต่มันเป็นจังหวะที่สับมาแล้วต้องมาหยุด เสียเวลาไปหนึ่งละ แล้วพอปล่อยตัว กว่าจะสับขึ้นมาได้เท่าก่อนที่จะหยุดก็ต้องอีกพักนึงเลย

ข้อสอง ปริมาณคนที่วิ่งทำให้เร่งจังหวะไม่ได้ตามใจเรา เพราะบางทีก็ติดคนข้างหน้า แซงไม่ได้

ข้อสาม ประเมินตัวเองต่ำไปนิดนึง ช่วงแรกค่อนข้างผ่อน เพราะกลัวไปหมดตรงโลเจ็ดโลแปด ปรากฎว่า พอเร่งจนเข้าเส้นชัยแล้วยังมีเหลือ นี่เสียดาย น่าจะกดได้มากกว่านี้ (ฟังแล้ว แหม่ กูล่ะหมั่นไส้มึงจริง ๆ -> เล่นเองเจ็บน้อยหน่อย)

ข้อสี่ Newton นี่วิ่งสนุกจริงจังมาก ยิ่งเวลาสับเร่งนะ โอ้โห มันใช่!!

สรุปงานนี้ต้องชมว่าผู้จัดจัดได้ดีมาก ตั้งแต่การจัดการรับสมัคร (ถึงจะเต็มเร็วมากก็เถอะ แต่สมัครงานนี้เว็บไม่ล่มนะ -> งานนาวิกฯ โปรดส่งคนมาดูงาน) มีพลาดไปนิดนึงเรื่องข้อมูลเบอร์โทรฉุกเฉินบนบิบ และการจัดส่งช้ากว่าที่บอกนิดหน่อย แต่ก็มาก่อนวันแข่งหลายวัน แบบสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้น

การดูแลจัดการจราจรดีมาก เรื่องปิดถนนไม่ได้ ๑๐๐% นี่เข้าใจ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ จัดงานวิ่งสเกลนี้ในใจกลางกรุงเทพฯ ขนาดนี้ ปิดการจราจรได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว แถมระหว่างทางมีกรวยกั้นแบ่งเลนและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเส้นทาง จุดให้น้ำมีพร้อมทุกสองกิโลฯ มีจุดให้เกลือแร่อีกจุดนึง

เข้าเส้นชัยมาแยกจุดรับเหรียญให้เดินไปอีกหน่อยจะได้ไม่กองกันอยู่ที่หน้าเส้นชัย อันนี้ใช่เลย จากที่ไปเป็นกำลังใจให้แม่พดด้วงมาสองสามงานหลายงานมาตายตรงนี้ พอคนเข้าเส้นชัยแล้วต้องยืนรอรับเหรียญทำให้แถวยาวไปขวางคนกำลังจะเข้าเส้น อันนี้คิดมาดี ต้องชม

เรื่องอาหารเครื่องดื่มหลังงานมีพร้อม คิวสั้นบ้างยาวบ้างแล้วแต่ประเภทและความสนใจของนักวิ่ง อันนี้เรื่องปกติ

สรุปสั้น ๆ ว่า ดีครับ… (ใครอยากลงงานวิ่งที่การจัดงานได้มาตรฐานปีหน้าเตรียมตัวรอได้เลย)

หมายเหตุ : สำหรับเส้นทางวิ่งเผื่อใครสนใจลงปีหน้านะครับ (ถ้าไม่เปลี่ยนนะ) สนามศุภชลาศัย – ถนนบรรทัดทอง – พระราม ๔ – อังรีดูนังต์ – พระราม ๔ – ถนนวิทยุ – ถนนเพลินจิต – ถนนพระราม ๑ – สนามศุภชลาศัย

10K Thailand Championship 2018 route

เล่าประสบการณ์สมัครลงงานวิ่ง

altra escalante boston 2018

วิ่งออกกำลังกายมาสามสี่ปีไม่เคยคิดจะลงงานวิ่ง จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนกุมภาฯ ไปยืนเชียร์เป็นกำลังใจให้คุณภรรยาที่ลงงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2018 แล้วบรรยากาศมันดี ฟีลมันได้ เลยตัดสินใจสมัครลงงานไปแล้วตอนนี้สามงาน (ยังไม่ได้วิ่งซักงาน)

แล้วเพิ่งรู้ว่าเป็นงานที่สมัครยาก ยากมากและยากอิ๊บอ๋าย

งานแรก 10K Thailand Championship 2018 สมัครออนไลน์อย่างเดียว เปิดรับสมัครตอนเที่ยงตรงเป๊ง ไม่เกินชั่วโมงเต็มจ้า

งานต่อมา ศิริราช เดิน-วิ่ง ผสานชุมชน ครั้งที่ ๑๒ เปิดรับสมัครที่โรงพยาบาลศิริราชก่อนแล้วค่อยเปิดรับออนไลน์ ดูจากภาพที่คนโพสต์มาในกรุ๊ปวิ่ง คนมาสมัครกันล้านเจ็ด!! คนที่สมัครได้คนแรกมารอคิวตั้งแต่ตีสี่กว่า ๆ โอ้โห 😮

นี่โชคดีที่มีกัลยาณมิตรช่วยรับหน้าที่สมัครให้ ก็เลยได้ กราบบบบบบบ

งานที่สามล่าสุด สด ๆ ร้อน ๆ สัปดาห์ที่แล้วนี่เอง นาวิกโยธินมาราธอน ๒๐๑๘ (Marines Marathon 2018) อภิมหาดราม่าแห่งงานวิ่ง เปิดรับออนไลน์อย่างเดียว เปิดปุ๊บล่มปั๊บ ไอ้ชิบหา_ 5555 นั่งเคาะ F5 รัว ๆ เครื่องคอมพ์เปิดเบราเซอร์สองตัว Chrome ตัวนึง Firefox ตัวนึง แถมด้วย Safari ในไอโฟนอีกตัวนึง แม่มยังสมัครไม่ได้ เว็บล่มจนสุดท้ายแอดมินต้องขอเลื่อนวันสมัคร แถมแยกวันเอาฟูลมาราธอนกับฮาล์ฟฯ มาไว้วันนึง แล้วเอามินิกับฟันรันไปอีกวันนึง

เออ ค่อยดูมีความหวังหน่อย

พอถึงวันสมัครครั้งใหม่ เปิดปุ๊บ ไอ้ชิบหา_ ล่มอีกแล้ว 5555 หยุดไปหลายวันมึงทำไรให้ดีขึ้นมั่งเนี่ย นั่งเคาะ F5 ไปสิ เบราเซอร์สามตัว สุดท้าย Firefox แม่มได้เว้ยยยยยย ยัง ยังไม่พอ สมัครได้แต่ปริ้นต์ใบ pay-in ไม่ได้ เพราะระบบพี่แกวางไว้ให้ไปจ่ายเคาน์เตอร์แบงก์อย่างเดียว ใช้อินเทอร์เน็ตแบงกิ้งไม่ได้ ใช้แอปไม่ได้

ที่เล่ามานี่ต้องขอชมแอดมินของเพจงานนาวิกฯ มาก ไม่รู้ใจทำด้วยอะไร เพราะเพจโดนถล่มก่นด่าไม่มีชิ้นดี แม่มไม่มีมาตอบซักคำ 5555555

จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มดีขึ้นนั่นแหละ ถึงค่อยมีกระมิดกระเมี้ยนมาบ้าง

หวังว่าหลังจากงานนาวิกฯ แล้วจะลงงานไหนขอให้สมัครง่ายสมัครดายหน่อยเถอะนะ ตอนนี้ในกรุ๊ปวิ่งเขาบอกกันว่า ยากกว่าวิ่งก็สมัครงานวิ่งนี่แหละจ้า

แบรนด์ Altra เปลี่ยนมือ

altra escalante boston 2018

เมื่อวันก่อนเพิ่งซื้อ altra escalante boston 2018 มาแหมบ ๆ ตอนนี้มีข่าวล่าสุดสำหรับแฟน ๆ altra ครับ ไม่ใช่เรื่องรองเท้ารุ่นใหม่ ไม่ใช่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นเรื่อง “ขายบริษัท”

ผ่ามมมมมมมมมม!!

ข่าวที่ออกมาก็คือ ทางผู้ถือหุ้น altra ได้ตกลงขายบริษัทให้กับ VF Corporation แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไร ทั้งในเรื่องราคาและเหตุผล แต่บอกแค่ว่ากระบวนการขายน่าจะลุล่วงภายในเดือนเมษายนนี้

สำหรับ VF Corporation ที่มาซื้อ altra ไปนี่เป็นเจ้าของแบรนด์น่าสนใจหลายแบรนด์ด้วยกัน ตั้งแต่ The North Face / Vans / Timberland / Wrangler แล้วก็ Lee ครับ

สำหรับลูกค้าอย่างเรา ๆ ก็ต้องตั้งความหวังไว้ว่า การเปลี่ยนมือครั้งนี้จะทำให้สินค้าดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่แย่ลงนะ…

เรา “วิ่ง” มาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

จากเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้มาเริ่มวิ่งเมื่อหลายปีก่อน

ไม่อยากนอนติดเตียงตอนแก่และไม่อยากเอาเงินออมมาใช้เพื่อรักษาตัว

ตัดภาพมาวันนี้

running shoes

– ก่อนหน้านี้ต้องดูหนัง / ซีรีส์ ก่อนนอน นอนดึกตื่นสายหน่อยเรื่องปกติ ตอนนี้รีบเข้านอน ตื่นตีสี่ตีห้ามาซ้อมวิ่ง
– ก่อนหน้านี้ดูถ่ายทอดสด NFL ต่อมาเป็น NBA ตามมาด้วย Premier League ตอนนี้ที่ว่ามาแทบไม่ดูเลย มาดูถ่ายทอดสดงานวิ่งมาราธอน (แม่งสนุกตรงไหน? แต่ดูได้ยาวสองชั่วโมงกว่า เอาสิ)
– ก่อนหน้านี้เดินเข้าห้างต้องแวะร้านหนังสือ เดี๋ยวนี้หนังสือใช้ซื้อออนไลน์ ถ้าเข้าห้างขอแวะดูรองเท้าวิ่ง
– กรุ๊ปที่เข้าใน facebook ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปวิ่ง
– เพจที่ไลก์และเซ็ตให้ see first ส่วนใหญ่เป็นเพจวิ่ง / ร้านอุปกรณ์วิ่ง / เพจแบรนด์รองเท้าวิ่ง / เพจงานวิ่ง
– มีลิสต์ใน twitter ชื่อว่า Running ในนั้นเป็นแอคเคาต์ข้อมูลการวิ่ง / แบรนด์รองเท้าวิ่ง / คนรีวิวรองเท้าวิ่ง / งานวิ่ง
– รีวิวในออนไลน์ที่อ่านและดูคลิป ส่วนใหญ่เป็นรีวิวรองเท้าวิ่ง
– subscribe แชนแนลคนรีวิวรองเท้าวิ่ง / ความรู้เกี่ยวกับการวิ่ง ใน youtube
– มี playlist ใน youtube ชื่อว่า Running ในนั้นรวมคลิปสาระเกี่ยวกับการวิ่ง
– ในปฎิทินนอกจากลงคิวงานแล้ว ยังมีกำหนดการงานวิ่งตลอดปี ทั้งวันรับสมัครและวันวิ่งจริง

และอื่น ๆ อีกมากมาย

เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

#รักใครให้ชวนมาวิ่ง

ประสบการณ์งานวิ่ง Kumarathon : Together We Run 2017

Kumarathon 2017 medals

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาคุณแม่พดด้วงไปลงงานวิ่ง Kumarathon : Together We Run 2017 ที่สวนหลวงร.๙ มาครับ ผมทำหน้าที่สารถีขับรถ ซึ่งเป็นการขับรถข้ามเมืองจากฝั่งธนไปสวนหลวงร.๙ เป็นครั้งแรก งานนี้จัดให้เพื่อแม่พดด้วงโดยเฉพาะเลย (#โพสต์สร้างภาพ 5555)

แม่พดด้วงเล่าว่าเห็นประกาศงานวิ่งงานนี้มาจากเพจ Kumamon Thailand เมื่อราว ๆ ประมาณปลายเดือนตุลาคม (หรือต้นพฤศจิกายนนี่แหละ) ตอนแรกที่เห็นก็สนใจแต่ไม่ได้สมัคร เพราะมันไกลบ้าน ก็เลยตัดใจไป

ทีนี้ปรากฎว่า หลังจากที่เปิดให้สมัครกันแล้วเกิดมีคนสละสิทธิ์ ไม่โอนเงินค่าสมัครเข้ามา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนที่สมัครนั่นมือลั่น หรืออยู่ในอารมณ์ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม (สำนวนเก่าบอกวัยมาก) เฮ้ย งานวิ่งเว้ย สมัครไว้ก่อนเว้ย!! อะไรแบบนี้หรือเปล่า (สองอาการที่ว่ามานี้ลองไปถามนักวิ่งดูเถอะ เชื่อว่าเป็นกันเยอะ 5555) ทางผู้จัดงานก็เลยมีการเปิดรับสมัครทดแทน

คราวนี้แม่พดด้วงไม่พลาด เพราะความมุ้งมิ้งตะมุตะมิของ race kit ที่ทางเพจเอามาโชว์นี่ต้องบอกว่า เห็นแล้วรอดยาก แล้วงานนี้เป็นงานที่ให้ของเพียบมาก โดยเปิดให้คนสมัครเลือกได้ว่าจะอยู่ Team Kumamon (สีดำ) หรือ Team Sister (สีเหลือง) ซึ่งทั้งสองทีมมีทั้งเสื้อวิ่ง (แบรนด์ Mizuno) สายรัดข้อมือ กระเป๋าผ้า รวมไปถึงฟิกเกอร์ แถมยังเปิดขายตัวติดบิ๊บลายคุมะมงสำหรับคนที่สนใจ ซึ่งแน่นอนว่า แม่พดด้วงโดนไปหนึ่งชุด

Kumarathon Team Sister Race Kit

ส่วนหนึ่งของ race kit ชุดนี้เป็น Team Sister สีเหลืองครับ

เช้าวันเสาร์เราตื่นตั้งแต่ยังไม่ตีสี่ เตรียมตัวเสร็จ เช็กของให้เรียบร้อยว่าไม่ลืมอะไร โดยเฉพาะบิ๊บ (ใครลืมบิ๊บวันงานนี่เหมือนไปถึงสนามบินแล้วลืมพาสปอร์ตยังไงยังงั้นนะฮะ) ออกจากบ้านตอนตีสี่ครึ่ง ขับรถข้ามเมืองไปสวนหลวงร.๙ โดยพึ่งคุณพี่ Google Map ไปตลอดทาง (กราบบบบบบ)

Kumarathon 2017 gear

ส่วนหนึ่งของ race kit ตัวติดบิ๊บกลม ๆ สี่อันนั่นต้องซื้อต่างหากนะครับ

ไปถึงที่จอดรถตอนตีห้านิด ๆ กำลังจะเลี้ยวเข้าที่จอดรถที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ ปรากฎว่า มันเต็มที่คันก่อนหน้าเราพอดี เราเป็นคันแรกที่โดนกั้น (ให้มันได้ยังงี้!!) กำลังคิดว่าแล้วกูจะไปจอดที่ไหนดีวะ ขับออกมาไม่ถึงสิบเมตรมีที่จอดรถหน้าอาคารพาณิชย์ที่ยังว่าง ๆ อยู่ ก็เอาวะ ขอตรงนี้ละกัน ซึ่งพอเราเข้าไปจอดก็มีคันอื่นตามหลังเข้ามาจอดอีกร่วมยี่สิบคันจนเต็มและทั้งหมดเป็นรถของคนที่มางานวิ่งวันนี้ 5555

เดินข้ามถนนเข้าไปในงานบนเวทีมีพิธีกรหญิงชายดำเนินรายการอยู่ บอกกำหนดการว่าตอนตีห้าสี่สิบห้าจะมีการวอร์มกัน คุณภรรยาก็ไปเตรียมตัว กินขนมปังรองท้อง ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

พอได้เวลาก็มีการวอร์มนำโดยคุมะมง!!! อันนี้เสียดาย ถ่ายวิดีโอเก็บไว้ไม่ทัน เพราะคุมะมงนำวอร์มด้วยเพลง ชูมือขึ้นแล้วหมุน ๆ ซึ่งบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่นับพันคนต่างก็พร้อมใจทำท่าตามคุมะมงกันอย่างพร้อมเพรียง เป็นที่สนุกสนานเฮฮาน่าชมยิ่งนัก

วอร์มเสร็จมีพิธีการอีกเล็กน้อย ถ่ายร่งถ่ายรูปคุมะมงกับสปอนเซอร์รายใหญ่ก่อนจะปล่อยตัวตอนหกโมงตรง งานนี้ปล่อยตัวทีเดียวเลยเพราะวิ่งระยะเดียว คือ ๕.๖ กิโลเมตร

งานนี้แปลกอยู่อย่าง ปล่อยตัวแล้ว นักวิ่งก็ทยอยวิ่งกันออกไปแล้ว ยังมีนักวิ่งอีกหลายสิบคน หรือเกือบร้อยที่แต่งตัวชุดวิ่งกันมาแล้ว แต่ไม่วิ่งเว้ย มาเดินถ่ายรูปกับแบ็กดรอปคุมะมงที่คนจัดวางเตรียมเอาไว้หลายจุด นี่เหมือนรู้นิสัยนักวิ่งสายเซลฟี่บ้านเราเลยนะ ทำการบ้านมาดีมาก 5555 แต่ก็มีหลายคนที่พอถ่ายรูปหนำใจแล้วค่อยออกวิ่งตามไป เรียกว่างานนี้มาวิ่งเอาสนุก วิ่งขำ ๆ ไม่จริงจังเอาเป็นเอาตายนะ

พอแม่พดด้วงออกวิ่งแล้วทีนี้เราก็ว่าง ก็เดินดูนักวิ่งสาว ๆ เฮ้ย!! บูธสปอนเซอร์ ทีแรกนึกว่า mizuno จะมาตั้งบูธขายรองเท้า ยังคิดอยู่เลยว่า วันนี้กูโดนอีกคู่แน่ ๆ ปรากฎว่า mizuno ไม่มา ก็เลยรอดไป ไม่เสียเงินนะฮะ

เดินไปเดินมาไปเจอบูธ uber eats กำลังยืนดู ๆ อยู่มีน้องหน้าใสมาชวนให้โหลดแอป ลงทะเบียนแล้วมีของแจก แถมได้โค้ดใช้ฟรีอีกห้าครั้ง อ่ะ อย่างนี้น่าสนใจ ลงไว้ก่อน เผื่อช่วงหยุดปีใหม่ขี้เกียจออกจากบ้านจะได้นอนไม่แห้งตายคารัง

เดินดูอยู่สักพักเห็นมีนักวิ่งคนแรกเข้าเส้นชัยมาแล้ว ก็เลยเดินไปยืนรออยู่หน้าเส้นชัย ระหว่างที่รอก็ถ่ายรูปเหรียญรางวัลเขาไปพลาง ๆ แล้วได้เห็นว่าพอนักวิ่งเข้าเส้นชัยมาเจ้าหน้าที่จะให้เหรียญแล้วกาเครื่องหมายบนบิ๊บเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า คนนี้รับเหรียญไปแล้วนะ มั่วไม่ได้แน่นอน

ดูนักวิ่งที่เข้าเส้นชัยมาก็แปลกใจนิดนึง ทีแรกคิดว่างานวิ่งที่มุ้งมิ้งแบบนี้คนมาวิ่งน่าจะเป็นผู้หญิงสาว ๆ เป็นส่วนใหญ่ (เหมือนคุณแม่พดด้วง 5555) ที่ไหนได้ นอกจากสาว ๆ แล้วยังมีสาวใหญ่ มีหนุ่ม ๆ ทั้งที่เป็นหนุ่มแมน ๆ ถึก ๆ และหนุ่มที่ไม่แมน เรียกว่ามากันครบทุกเพศทุกวัยนะฮะ

สักพักใหญ่ ๆ แม่พดด้วงก็วิ่งเข้าเส้นชัยมา เราก็ไปยืนเสนอหน้าถ่ายรูปตอนวิ่งเข้าเส้นเก็บไว้เป็นที่ระทึก 5555 รับเหรียญเรียบร้อยก็ไปยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อจะได้ไม่เจ็บ แล้วแวะไปรับอาหาร งานนี้มีแมคโดนัลส์ มีมาม่า เข้าคิวรับกันได้ตามใจชอบ ระหว่างที่กินเบอร์เกอร์เราก็นั่งตอบคำถามชิงรางวัล รางวัลใหญ่เป็นตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นสองที่นั่ง ปรากฎว่า ตอบผิดเกินจำนวนที่จะได้เข้าไปลุ้นรางวัล ช่วงนั้นคุมะมงวิ่งเข้าเส้นชัยมาแล้วกำลังจะเข้าไปพักในรถตู้ที่จอดอยู่บริเวณที่เรานั่งอยู่พอดี เลยได้เจอระยะประชิด ทั้งตัวคุมะมงและสาวญี่ปุ่นที่เป็นพี่เลี้ยงคุมะมง ฮ่า…

Kumarathon 2017 medal

พอพักหายเหนื่อยแล้วเราก็กลับ ไม่ได้อยู่ร่วมงานต่อ เพราะเราต้องขับรถข้ามเมืองกลับบ้านโดยที่ไม่ชินทาง (อาศัยพี่ Google Map เช่นเดิม กราบบบบบบอีกที) ก็เลยไม่อยากให้สายนัก เดี๋ยวจะเจอรถติดเกินความจำเป็น ตอนที่เดินออกมาเห็นรถนักวิ่งที่จอดอยู่ริมถนนเจออุบัติเหตุ ไม่รู้ใครมาเฉี่ยวหรือชน กำลังเคลียร์กับประกันอยู่ คงเซ็งน่าดู

สิ่งที่ประทับใจมากของงานนี้คือ การบริหารจัดการ เรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพมาก ถึงเราจะมีประสบการณ์ลงงานวิ่งมาน้อยมาก แต่เรื่องแบบนี้มันดูออก รู้สึกได้ เริ่มจากก่อนวันงานมีการให้ข้อมูลสม่ำเสมอ ส่ง race kit ให้ถึงมือก่อนวันงานนานพอสมควร แผนผังการวิ่งชัดเจน ให้ข้อมูลที่จอดรถชัดเจน ปล่อยตัวตรงเวลา แม่พดด้วงบอกว่ามีเจ้าหน้าที่คอยบอกเส้นทางวิ่งทุกทางแยก วิ่ง ๆ อยู่ไม่มีหลงแน่นอน ส่วนเรื่องการฝากของ อันนี้ไม่รู้เพราะเราไม่ได้ฝาก

ถ้าให้สรุปสั้น ๆ ต้องบอกว่า เป็นงานวิ่งที่จัดได้ดีมาก ทีมงานพร้อม เหรียญสวยดึงดูดใจ ถึงจะวิ่งระยะแค่ฟันรันแต่ก็ประทับใจ แม่พดด้วงบอกว่า ปีหน้ามาอีกแน่นอน…

Kumarathon2017 medal in car

วิ่งโซน ๒ สิบโล วันพ่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๐

10K Zone 2 Running on 5 December 2017

เมื่อเช้าหนุ่มใหญ่วัยเกรียนย่านบางบัวทองออกไปปฏิบัติธรรม เฮ้ย ไปซ้อมวิ่งโซนสองสิบโลอีกที ครั้งนี้มุ่งมั่นมาก ระหว่างที่วอร์มยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยความคึก (จากเสียงเพลง eye of the tiger) ก็เลยตั้งเป้าว่า วันนี้จะกดหัวใจให้ต่ำลงอีก เพราะครั้งที่แล้วยังอยู่ปริ่ม ๆ ปลาย ๆ โซนสอง แถมมีเด้งหลุดขึ้นไปโซนสามเป็นระยะ แต่วันนี้แหละเว้ยยยยยย มึงเจอกรู!!! (fist pump!!)

ตัดภาพมาตอนวิ่ง คิดในใจว่า ไม่น่าเลยกู วิ่งแบบครั้งที่แล้วก็เบื่อพออยู่แล้ว เจือกคึกจะกดหัวใจลงอีก เบื่อหนักเลยทีนี้ แต่ก็พยายามคุมสติ ดูจิตไปเรื่อย ๆ ก้าวเท้าซ้ายให้รู้ ก้าวเท้าขวาก็ให้รู้ ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา แตะ ยก ก้าว แตะ ยก ก้าว สลับกับดูนากาเช็กหัวใจไปเรื่อย ๆ

สุดท้าย ทำได้เว้ยยยยยย ครั้งที่แล้วหัวใจ ๑๒๖ ครั้งนี้ ๑๑๙ (งวดหน้ามีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ แทงแม่มเต็ม ๆ) ลดลงมาได้ ๗ แต่ถ้าดูกราฟจะมีบางช่วงที่โดดขึ้นมาหน่อย น่าจะเป็นช่วงที่หลุด เผลอไปคิดถึงโดนัทปลายปี ปีนี้จะได้เท่าไหร่ว้า ได้โดนัทมาแล้วเอาไปทำไรดีว้า คิดถึงโดนัทปั๊บหัวใจมาเลย เลือดลมสูบฉีด แต่ดีที่รู้ตัว เสียงพระอาจารย์ปราโมทย์ลอยมาเลย จิตเผลอไปก็ให้รู้ ไม่ต้องไปบังคับ แต่ให้รู้ว่าตอนนี้เผลอไปแล้วนะ เออ พอรู้แล้วมันก็กลับมานะ

หัวใจได้ตามเป้า แต่เพซหนักกว่าเดิมอีกจ้า ครั้งที่แล้วเพซ ๑๔ กว่า ครั้งนี้เพซ ๑๖ กว่าเกือบ ๑๗ วิ่งสิบโลเท่าเดิมแต่เวลาเพิ่มเป็น ๒ ชั่วโมง ๔๘ นาที!!

เหยดดดดดด นี่ถ้าเมื่อซักห้าปีที่แล้วมีใครมาบอกว่า อีกหน่อยพี่จะตื่นแต่มืดในเช้าวันหยุดเพื่อลุกมาวิ่งเกือบสามชั่วโมงไม่หยุดเลย นี่แม่มฮาเลยนะ ใครจะเชื่อ

สำหรับไฮไลต์ของวันนี้นะฮะ นอกจากจะมีสายตาของคนในหมู่บ้านที่มองมาอย่างสงสัยในการวิ่งโคตรช้าแล้ว วิ่ง ๆ อยู่ มีอาม่าเดินแซงมาจากข้างหลัง จังหวะที่แซง อาม่ามองมาเหมือนมีคำถามประมาณว่า ลื้อทำอะไรของลื้อวะ?

ชายหนุ่มยังหนุ่มยังแน่นออกมาวิ่งตอนเช้าเจออาม่าอายุเจ็ดสิบกว่าที่ออกมาเดินชิลชิลแซง

ชีช้ำอ่า…