รุกสยามในนามของพระเจ้า

รุกสยาม

[แนะนำโดย คุณนพพร พวงสมบัติ]

ฝรั่งรุกอุกอาจเอื้อม เอาสยาม
สนั่นทัพโอ่พระนาม แอบอ้าง
กลทูตกึ่งสงคราม กลศึก
กลกลอกกำปั่นย่าง สยบย่ำ อยุธยา [น.๙ คำนำสำนักพิมพ์]

Pour la plus grande gloire de Dieu หรือในชื่อภาษาไทย รุกสยามในนามของพระเจ้า เป็นนวนิยายยั่วล้อประวัติศาสตร์ไทย-ฝรั่งเศสในช่วงสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าตัวละครเอกที่เดินทางอยู่ในช่วงเวลาของการแลกเปลี่ยนทางการทูตระหว่างสองประเทศนี้จวบจนกระทั่งผลัดแผ่นดินเข้าสู่รัชสมัยของพระเพทราชา ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลจากบันทึกจดหมายเหตุเอกสารทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก แล้ว “…อนุญาตให้ตัวเอง ‘แต่งเติม’ (เฉพาะตรงที่บางประโยคหรือบางคำพูดถูกเจ้าตัวหนอนแห่งกาลเวลากัดกร่อนแทะเล็มแหว่งวิ่นไป)”–[น.๒๑] และตรงที่แต่งเติมเข้ามานี่แหละที่เป็นสีสันของเรื่องราว สีสันของการใช้ภาษาที่ทำให้เรื่องราวที่บอกเล่าในเรื่องเป็นไปด้วยความ “ฮา” แต่ก็ด้วยความที่เป็นนิยายอิง (เอกสารทาง) ประวัติศาสตร์นี่แหละที่ทำให้เรา “…เห็นภาพการปะทะสัมพันธ์ระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน เป็นการปะทะขัดแย้งทางความคิดและวิถีชีวิตระหว่างคนสองวัฒนธรรม โดยมีเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์และการเมืองเป็นสายใยในการดำเนินเรื่อง ถ้าจะอ่านเอาความให้เป็นนวนิยายเชิงประวัติศาสตร์ก็ได้ หรือจะหารสชาติจากการสังเคราะห์ธาตุแท้ของมนุษย์ก็ดี” –[น.๑๑ คำนำผู้แปล]

และแม้ว่าผู้แปลจะเกริ่นนำถึง “วาทกรรม” พื้นฐานในทางประวัติศาสตร์ไว้แล้วว่า “นวนิยายเรื่องนี้เสนอประเด็นที่น่าสนใจให้เสวนากันต่ออยู่สองประเด็น ประการแรกคือเรื่องของการเขียนประวัติศาสตร์ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘ข้อเท็จจริง’ แม้ในหลักฐานร่วมสมัยก็ไม่ได้ตรงต้องกันเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่า ‘ใคร’ เป็นผู้ ‘เล่าเรื่อง’ จากมุมมองและจุดประสงค์อย่างไร ประการที่สองคือ เราจะขีดเส้นพรมแดนระหว่างโลกของ ‘ความเป็นจริง’ และโลกของ ‘ความลวง’ อันเป็นเรื่องของจินตนาการของมนุษย์ไว้ ณ ที่ใด” แต่ตัวโปรยที่ผู้เขียนวางไว้ในบทสุดท้ายซึ่งหยิบมาจากบันทึกของลาลูแบร์ก็สะกิดใจคนอ่านอย่างเราเหมือนกันว่า ตกลงข้อความในบันทึกนั้นมันเป็นแค่วาทกรรมหรืออัตลักษณ์ของคนไทยจริงๆ ใช่เปล่าว้า…..

ลักษณะสำคัญที่สะท้อนการสยบเป็นทาสของคนสยาม อยู่ตรงที่พวกเขาไม่กล้า แม้แต่จะเอ่ยปากพูดถึงเหตุการณ์เรื่องราวใดในบ้านเมืองของตัวเอง —ซิมง เดอ ลาลูแบร์, ราชอาณาจักรสยาม, ค.ศ.๑๖๙๑ [น.๖๙๕]

รุกสยามในนามของพระเจ้า
ผู้เขียน : มอร์กาน สปอร์แตช
ผู้แปล : กรรณิกา จรรย์แสง

หนังสือเล่มที่ ๑๑ ของปี ๒๕๕๘ : ผู้ยิ่งใหญ่

ผู้ยิ่งใหญ่

นิยายของ Jeffrey Archer เล่มนี้แปลมาจาก First Among Equals ที่ออกมาในปี ๑๙๘๔ ส่วนฉบับแปลเล่มนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่ ๒ ออกมาตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๓๕ (ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปี ๒๕๒๘) ผมซื้อมาตั้งแต่สมัยนั้นแต่ยังไม่เคยได้หยิบมาอ่าน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งๆ ที่นิยายของคุณพี่ Archer นี่สนุกมาก เท่าที่อ่านมานี่สนุกทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็ด้วย

เรื่องราวของเล่มนี้เล่าถึงเส้นทางชีวิตนักการเมืองสี่คนที่เริ่มต้นชีวิตส.ส.อังกฤษในปีเดียวกัน และทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ “นายกรัฐมนตรี” โดยที่ทั้งสี่คนนี้มีภูมิหลังและเส้นทางแตกต่างกัน

เรย์มอนด์ โกลด์ เด็กหนุ่มจากเมืองลีดส์ผู้เกิดชั้นบนของร้านขายเนื้อ ต้องถลำตัวติดแน่นอยู่กับภรรยาชาวบ้านนอก

แอนดรูว์ เฟรเซอร์ บุตรชายของนายกเทศมนตรีแห่งพรรคอนุรักษ์นิยม เขาเข้าพรรคแรงงานเพื่อพิชิตตำแหน่งของบิดาในสภา

ไซม่อน เคิร์สเลค ประธานสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด นักการเมืองอาชีพแห่งพรรคอนุรักษ์นิยมผู้ได้รับการหนุนหลังจากภรรยาผู้เป็นแพทย์

ชาร์ลส์ ซีย์มัวร์ ชายผู้อำมหิตแห่งพรรคอนุรักษ์นิยม เขามาจากตระกูลร่ำรวย เป็นผู้ดีมีสกุล ไม่มีสิ่งใดจะขวางหน้าเขาได้ในการทะยานก้าวสู่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี”

(ข้อความจากหนังสือ ผู้ยิ่งใหญ่)

Archer เล่าถึงเส้นทางชีวิตการเมืองของชายหนุ่มแต่ละคน ที่มีทั้งความสำเร็จและอุปสรรค บางคนเลือกเดินในทางที่สร้างปัญหาให้กับตัวเองในบางขณะ บางคนใช้เล่ห์เหลี่ยมและการหักหลังเพื่อทำลายคู่แข่ง สะท้อนให้เห็นความไม่สมบูรณ์พร้อมของตัวละครที่ไม่ต่างอะไรจากคนในความเป็นจริง อ่านไปก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า นี่ถ้าเป็นเรื่องราวของนักการเมืองไทยมันจะขั้นกว่าขึ้นไปอีกขนาดไหน

ขณะที่ผู้อ่านตามติดชีวิตนักการเมืองหนุ่มเหล่านี้ Archer ก็ได้แทรกเรื่องราวเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสตรีเหล็กมาร์กาเร็ต แธทเชอร์ สงครามฟอล์คแลนด์ พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอาน่า แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ผู้เขียนคาดการณ์ไว้ผิดพลาดเช่นกัน จะเป็นเรื่องอะไร อันนี้ต้องอ่านเอาเอง

Archer เฉลี่ยน้ำหนักความสำคัญของตัวละครทั้งสี่เอาไว้ใกล้เคียงกันและแต่ละคนมีช่วงขาขึ้นและขาลงพอๆ กัน ทำให้การเดาว่าใครจะบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุดนั้นยากมาก แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นว่าใครที่ค่อยๆ หมดโอกาสไปและเหลือใครที่เป็นคู่แข่งขันในตอนท้าย

บอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องนี้เฉลยอยู่ที่บรรทัดสุดท้ายจริงๆ เพราะฉะนั้นห้ามมือซนไปพลิกดูก่อนเป็นอันขาด ตอนอ่านมาถึงหน้ารองสุดท้ายถ้าเป็นไปได้ก็เอามือปิดหน้าสุดท้ายเอาไว้ เพื่ออรรถรสของเรื่องนะครับ

ขอให้มีความสุขกับการอ่านครับ ❤

 

ผู้ยิ่งใหญ่
ผู้เขียน : Jeffrey Archer
ผู้แปล : กัณหา แก้วไทย
สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ราคา : ๑๐๐ บาท

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด

หนังสือเล่มที่สิบของปี ๒๕๕๘ : สาบสูญ

 

รีวิวหนังสือ : ผู้ยิ่งใหญ่ (First Among Equals)

ผู้ยิ่งใหญ่

นิยายของ Jeffrey Archer เล่มนี้แปลมาจาก First Among Equals ที่ออกมาในปี ๑๙๘๔ ส่วนฉบับแปลเล่มนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่ ๒ ออกมาตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๓๕ (ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปี ๒๕๒๘) ผมซื้อมาตั้งแต่สมัยนั้นแต่ยังไม่เคยได้หยิบมาอ่าน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งๆ ที่นิยายของคุณพี่ Archer นี่สนุกมาก เท่าที่อ่านมานี่สนุกทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็ด้วย

เรื่องราวของเล่มนี้เล่าถึงเส้นทางชีวิตนักการเมืองสี่คนที่เริ่มต้นชีวิตส.ส.อังกฤษในปีเดียวกัน และทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ “นายกรัฐมนตรี” โดยที่ทั้งสี่คนนี้มีภูมิหลังและเส้นทางแตกต่างกัน

เรย์มอนด์ โกลด์ เด็กหนุ่มจากเมืองลีดส์ผู้เกิดชั้นบนของร้านขายเนื้อ ต้องถลำตัวติดแน่นอยู่กับภรรยาชาวบ้านนอก

แอนดรูว์ เฟรเซอร์ บุตรชายของนายกเทศมนตรีแห่งพรรคอนุรักษ์นิยม เขาเข้าพรรคแรงงานเพื่อพิชิตตำแหน่งของบิดาในสภา

ไซม่อน เคิร์สเลค ประธานสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด นักการเมืองอาชีพแห่งพรรคอนุรักษ์นิยมผู้ได้รับการหนุนหลังจากภรรยาผู้เป็นแพทย์

ชาร์ลส์ ซีย์มัวร์ ชายผู้อำมหิตแห่งพรรคอนุรักษ์นิยม เขามาจากตระกูลร่ำรวย เป็นผู้ดีมีสกุล ไม่มีสิ่งใดจะขวางหน้าเขาได้ในการทะยานก้าวสู่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี”

(ข้อความจากหนังสือ ผู้ยิ่งใหญ่)

Archer เล่าถึงเส้นทางชีวิตการเมืองของชายหนุ่มแต่ละคน ที่มีทั้งความสำเร็จและอุปสรรค บางคนเลือกเดินในทางที่สร้างปัญหาให้กับตัวเองในบางขณะ บางคนใช้เล่ห์เหลี่ยมและการหักหลังเพื่อทำลายคู่แข่ง สะท้อนให้เห็นความไม่สมบูรณ์พร้อมของตัวละครที่ไม่ต่างอะไรจากคนในความเป็นจริง อ่านไปก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า นี่ถ้าเป็นเรื่องราวของนักการเมืองไทยมันจะขั้นกว่าขึ้นไปอีกขนาดไหน

ขณะที่ผู้อ่านตามติดชีวิตนักการเมืองหนุ่มเหล่านี้ Archer ก็ได้แทรกเรื่องราวเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสตรีเหล็กมาร์กาเร็ต แธทเชอร์ สงครามฟอล์คแลนด์ พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอาน่า แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ผู้เขียนคาดการณ์ไว้ผิดพลาดเช่นกัน จะเป็นเรื่องอะไร อันนี้ต้องอ่านเอาเอง

Archer เฉลี่ยน้ำหนักความสำคัญของตัวละครทั้งสี่เอาไว้ใกล้เคียงกันและแต่ละคนมีช่วงขาขึ้นและขาลงพอๆ กัน ทำให้การเดาว่าใครจะบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุดนั้นยากมาก แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นว่าใครที่ค่อยๆ หมดโอกาสไปและเหลือใครที่เป็นคู่แข่งขันในตอนท้าย

บอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องนี้เฉลยอยู่ที่บรรทัดสุดท้ายจริงๆ เพราะฉะนั้นห้ามมือซนไปพลิกดูก่อนเป็นอันขาด ตอนอ่านมาถึงหน้ารองสุดท้ายถ้าเป็นไปได้ก็เอามือปิดหน้าสุดท้ายเอาไว้ เพื่ออรรถรสของเรื่องนะครับ

ขอให้มีความสุขกับการอ่านครับ ❤

 

ผู้ยิ่งใหญ่
ผู้เขียน : Jeffrey Archer
ผู้แปล : กัณหา แก้วไทย
สำนักพิมพ์ : แก้วกานต์
ราคา : ๑๐๐ บาท

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด

หนังสือเล่มที่สิบของปี ๒๕๕๘ : สาบสูญ

 

นิตยสาร delight กรกฎาคม – กันยายน ๒๕๕๘

delight Jul - Sept 2015

นิตยสาร delight เป็นนิตยสารราย ๓ เดือนที่แจกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG สำหรับเล่มล่าสุด (กรกฎาคม – กันยายน ๒๕๕๘) มาในธีม FOOD culture

เล่มนี้คนชอบเรื่องอาหารน่าจะถูกใจ เพราะเรื่องจากปกนำเสนอเรื่องราววัฒนธรรมด้านอาหารของภูมิภาคต่างๆ ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา ฯลฯ นอกจากนี้ ยังเสริมด้วย เรื่องเล่าขาน “พระกระยาหารโปรด” ของพระพุทธเจ้าหลวง ที่ได้รวบรวมความเป็นมาของเมนูโปรดของรัชกาลที่ ๕ บางเมนู อาทิ น้ำพริกลงเรือ หมี่กรอบจีนหลี เป็ดอัด และขนมจีนน้ำยา

รวมทั้งคอลัมน์แนะนำร้านอาหารที่คัดมาหลากหลาย และที่ไม่พลาดก็คือ คอลัมน์การทำอาหาร โดยในเล่มนี้เป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวคั่วกรอบ และเชียบัตตา ใครสนใจแนวไหนก็ทดลองทำกันดูได้

สำหรับคอลัมน์อื่นๆ ก็จัดมาครบ มีทั้งธุรกิจ สุขภาพ ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ หนังสือน่าอ่าน ฯลฯ เรียกได้ว่า ถึงจะเป็นนิตยสารแจกฟรีแต่เนื้อหาไม่ได้ด้อยไปกว่าที่มีวางขายอยู่บนแผงเลย

สำหรับผู้สนใจ อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าเล่มนี้เป็นนิตยสารแจกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นกู้ของ SCG เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีหุ้นกู้ที่ว่าอาจต้องลองถามไปที่ SCG ดูนะครับ

หนังสือเล่มที่สิบของปี ๒๕๕๘ : สาบสูญ

สาบสูญ

ถ้าจู่ๆ แฟนคุณบอกเลิกคุณแล้วไปแต่งงานกับไอ้หนุ่มที่ไหนซักคนแบบไม่มีวี่แววมาก่อน แถมยังบอกให้คุณเลิกติดต่อกับเธอไม่ว่าจะทางไหน เจอตัว โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ เรียกง่ายๆ ว่า เลิกคบกันไปเลยนั่นแหละ

คุณจะว่ายังไง?

ถ้าคุณทำได้อย่างที่ว่ามาหกปี แล้วบังเอิญไปเจอข่าวการเสียชีวิตของไอ้หนุ่มคนที่แต่งงานกับแฟนคุณ พอคุณไปงานศพกลับเจอว่า เมียของไอ้หนุ่มนั่นดันไม่ใช่แฟนเก่าคุณ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ พอคุณไปตามหาคนที่ไปงานแต่งงานแฟนคุณ ทุกคนปฎิเสธว่าไม่รู้จักคุณและงานแต่งที่ว่าไม่เคยมีมาก่อน ทั้งๆ ที่คุณเองก็อยู่ในงานนั้นด้วย

ที่เด็ดคือ ไม่มีใครรู้ว่าแฟนคุณอยู่ไหน เป็นหรือตายยังไง เสิร์ชจากแหล่งไหนก็ไม่มีข้อมูลแฟนคุณหลังจากวันแต่งงานอีกเลย เหมือนเธอหายไปเฉยๆ และทุกคนก็บอกให้คุณเลิกตามหาเสียที

เพราะยิ่งตามก็ยิ่งมีคนตายเพิ่มขึ้น

ที่เล่ามาข้างบนคือเรื่องย่อๆ ของ สาบสูญ ที่แปลจาก Six Years ของพี่ Harlan Coben โดยคุณมณฑารัตน์ ทรงเผ่า เจ้าเก่าที่แปลมาแล้วหลายเล่มนะครับ เล่มนี้ออกมาก่อน ลวง ที่ผมเคยเขียนถึงไปแล้ว (ดูที่นี่ครับ)

ปกติแล้วงานของพี่ Coben จะเด่นมากเรื่องการหักมุม สร้างเซอร์ไพรส์อะไรทำนองนั้น แต่เล่มนี้ประเด็นการหักมุมไม่ค่อยเท่าไหร่ ที่เด่นมากๆ แซงหน้าขึ้นมาคือ การผูกปมและเล่าเรื่อง เตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้ามีงานที่อะไรที่ต้องทำไปทำให้เสร็จก่อนจะหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เพราะหยิบแล้วจะวางลงยากมาก ปมเรื่องที่วางไว้จะทำให้คนอ่านอ่านแล้วอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง ตัวเอกจะเจออะไรต่อ (วะ)

สำหรับคนที่มีนิสัยชอบอ่านหนังสือก่อนนอน เล่มนี้ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะคืนนั้นคุณอาจจะนอนน้อยหรือไม่ได้นอนเลยนะครับ

เล่มนี้มีที่ตินิดเดียวคือ เจอจุดที่ปรู๊ฟผิดสี่ห้าจุด ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับสำนักพิมพ์ใหญ่ระดับนี้ แถมเล่มที่เจอนี่เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๓ แล้วด้วย

 

สาบสูญ
ผู้เขียน : Harlan Coben
ผู้แปล : มณฑารัตน์ ทรงเผ่า
สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
ราคา : ๒๓๕ บาท

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด

รีวิวหนังสือ : สาบสูญ (Six Years)

สาบสูญ

ถ้าจู่ๆ แฟนคุณบอกเลิกคุณแล้วไปแต่งงานกับไอ้หนุ่มที่ไหนซักคนแบบไม่มีวี่แววมาก่อน แถมยังบอกให้คุณเลิกติดต่อกับเธอไม่ว่าจะทางไหน เจอตัว โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ เรียกง่ายๆ ว่า เลิกคบกันไปเลยนั่นแหละ

คุณจะว่ายังไง?

ถ้าคุณทำได้อย่างที่ว่ามาหกปี แล้วบังเอิญไปเจอข่าวการเสียชีวิตของไอ้หนุ่มคนที่แต่งงานกับแฟนคุณ พอคุณไปงานศพกลับเจอว่า เมียของไอ้หนุ่มนั่นดันไม่ใช่แฟนเก่าคุณ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ พอคุณไปตามหาคนที่ไปงานแต่งงานแฟนคุณ ทุกคนปฎิเสธว่าไม่รู้จักคุณและงานแต่งที่ว่าไม่เคยมีมาก่อน ทั้งๆ ที่คุณเองก็อยู่ในงานนั้นด้วย

ที่เด็ดคือ ไม่มีใครรู้ว่าแฟนคุณอยู่ไหน เป็นหรือตายยังไง เสิร์ชจากแหล่งไหนก็ไม่มีข้อมูลแฟนคุณหลังจากวันแต่งงานอีกเลย เหมือนเธอหายไปเฉยๆ และทุกคนก็บอกให้คุณเลิกตามหาเสียที

เพราะยิ่งตามก็ยิ่งมีคนตายเพิ่มขึ้น

ที่เล่ามาข้างบนคือเรื่องย่อๆ ของ สาบสูญ ที่แปลจาก Six Years ของพี่ Harlan Coben โดยคุณมณฑารัตน์ ทรงเผ่า เจ้าเก่าที่แปลมาแล้วหลายเล่มนะครับ เล่มนี้ออกมาก่อน ลวง ที่ผมเคยเขียนถึงไปแล้ว (ดูที่นี่ครับ)

ปกติแล้วงานของพี่ Coben จะเด่นมากเรื่องการหักมุม สร้างเซอร์ไพรส์อะไรทำนองนั้น แต่เล่มนี้ประเด็นการหักมุมไม่ค่อยเท่าไหร่ ที่เด่นมากๆ แซงหน้าขึ้นมาคือ การผูกปมและเล่าเรื่อง เตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้ามีงานที่อะไรที่ต้องทำไปทำให้เสร็จก่อนจะหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เพราะหยิบแล้วจะวางลงยากมาก ปมเรื่องที่วางไว้จะทำให้คนอ่านอ่านแล้วอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง ตัวเอกจะเจออะไรต่อ (วะ)

สำหรับคนที่มีนิสัยชอบอ่านหนังสือก่อนนอน เล่มนี้ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะคืนนั้นคุณอาจจะนอนน้อยหรือไม่ได้นอนเลยนะครับ

เล่มนี้มีที่ตินิดเดียวคือ เจอจุดที่ปรู๊ฟผิดสี่ห้าจุด ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับสำนักพิมพ์ใหญ่ระดับนี้ แถมเล่มที่เจอนี่เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๓ แล้วด้วย

 

สาบสูญ
ผู้เขียน : Harlan Coben
ผู้แปล : มณฑารัตน์ ทรงเผ่า
สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
ราคา : ๒๓๕ บาท

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด

แนะนำหนังสือ : เครื่องเบญจรงค์และลายน้ำทอง

เครื่องเบญจรงค์และลายน้ำทอง ปกหน้า

มีหนังสือดีมาแนะนำอีกแล้วครับ เมื่อช่วงต้นปีทางศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้จัดทำหนังสือ เครื่องเบญจรงค์และลายน้ำทอง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘

หนังสือเล่มนี้เก็บรวบรวมเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเครื่องเบญจรงค์ในประเทศไทย ไล่มาแต่ละยุค ตั้งแต่สมัยยังเป็นเครื่องถ้วยของจีน จนมาในสมัยสุโขทัย อยุธยาและรัตนโกสินทร์ แถมด้วยเรื่องราวของผู้ผลิตเครื่องเบญจรงค์ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ที่พิเศษสุดคือ ภาพถ่ายเครื่องเบญจรงค์ที่ผู้จัดทำเก็บภาพมาทั้งจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของนักสะสมหลายท่านที่ปกติแล้วจะไม่เปิดให้ใครชมได้ง่ายๆ เรียกได้ว่า หนังสือเล่มนี้คัดของดีที่หาชมได้ยากมารวบรวมไว้ในเล่มเดียว

ใครที่สนใจสามารถติดต่อซื้อได้ที่ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ราคาเล่มละ ๓,๖๐๐ บาท หรือถ้าใครจะซื้อฝากชาวต่างชาติก็มีฉบับภาษาอังกฤษด้วยครับ

เครื่องเบญจรงค์และลายน้ำทอง ปกหลัง

รีวิวหนังสือ : แม่ลาวเลือด – ภารกิจภาคต่อจากสารวัตรเถื่อน

แม่ลาวเลือด เล่ม ๑

จากเล่มที่แล้ว สารวัตรเถื่อน ที่ได้เริ่มย้อนตำนานบุรุษร่างสูง ผิวคล้ำ ถือเป็นการเปิดตัว ธนุส นิราลัย เป็นครั้งแรก ผมตามมาด้วยภารกิจที่สองใน แม่ลาวเลือด ซึ่งเวอร์ชั่นนี้แบ่งออกเป็นสองเล่ม หน้าปกดูไม่ค่อยคุ้นและไม่เข้าพวกกับเล่มอื่นๆ ในชุดเดียวกันเท่าไหร่ เพราะเล่มนี้ทางประพันธ์สาส์นเป็นผู้จัดพิมพ์ไม่ใช่มติชนที่เป็นเจ้าประจำของคุณวสิษฐ เดชกุญชร

เนื้อหาในเล่มนี้เล่าให้ผู้อ่านรับรู้ถึงเรื่องราวในอดีตของชายร่างสูง ผิวคล้ำมากขึ้น (เพราะในสารวัตรเถื่อนแทบไม่ได้บอกความเป็นมาอะไรของพี่เค้าเลย) นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ลำเพา เจ้าหน้าที่สาวของบราโว่ ที่ต้องมาปฎิบัติภารกิจร่วมกันและต่อมาได้กลายมาเป็นคนรักของธนุส

สำหรับภารกิจของธนุสในเล่มนี้ ต้องเรียกว่ามาด้วยความไม่ตั้งใจ เพราะหลังจากปฎิบัติภารกิจครั้งก่อนหน้าเสร็จ เขาปฎิเสธภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพราะตั้งใจจะไปพักผ่อนที่เกสต์เฮ้าส์ทางภาคเหนือของอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่เมื่อไปถึงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่บีบให้เขาต้องกลับมาปฎิบัติภารกิจให้กับบราโว่อีกครั้ง โดยเป็นการต่อสู้กับขบวนการค้าเสพติดที่มีกองกำลังติดอาวุธทำหน้าที่คล้ายกับบราโว่ด้วย

เนื่องจากเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้นอกจากจะมีการต่อสู้ในป่าแล้ว เล่มนี้ยังมีการถล่มกันด้วยอาวุธหนักในเขตเมืองเชียงใหม่ด้วย

สนุกและดำเนินเรื่องรวดเร็ว ไม่ทำให้แฟนแนวนี้ผิดหวังแน่นอน

แม่ลาวเลือด เล่ม ๒

 

แม่ลาวเลือด ๑ & ๒
ผู้เขียน : วสิษฐ เดชกุญชร
สำนักพิมพ์ : ประพันธ์สาส์น
ราคา : ๑๖๐ บาท (๒ เล่ม)

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

หนังสือเล่มที่แปด & เก้าของปี ๒๕๕๘ : แม่ลาวเลือด

แม่ลาวเลือด เล่ม ๑

จากเล่มที่แล้ว สารวัตรเถื่อน ที่ได้เริ่มย้อนตำนานบุรุษร่างสูง ผิวคล้ำ ถือเป็นการเปิดตัว ธนุส นิราลัย เป็นครั้งแรก ผมตามมาด้วยภารกิจที่สองใน แม่ลาวเลือด ซึ่งเวอร์ชั่นนี้แบ่งออกเป็นสองเล่ม หน้าปกดูไม่ค่อยคุ้นและไม่เข้าพวกกับเล่มอื่นๆ ในชุดเดียวกันเท่าไหร่ เพราะเล่มนี้ทางประพันธ์สาส์นเป็นผู้จัดพิมพ์ไม่ใช่มติชนที่เป็นเจ้าประจำของคุณวสิษฐ เดชกุญชร

เนื้อหาในเล่มนี้เล่าให้ผู้อ่านรับรู้ถึงเรื่องราวในอดีตของชายร่างสูง ผิวคล้ำมากขึ้น (เพราะในสารวัตรเถื่อนแทบไม่ได้บอกความเป็นมาอะไรของพี่เค้าเลย) นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ลำเพา เจ้าหน้าที่สาวของบราโว่ ที่ต้องมาปฎิบัติภารกิจร่วมกันและต่อมาได้กลายมาเป็นคนรักของธนุส

สำหรับภารกิจของธนุสในเล่มนี้ ต้องเรียกว่ามาด้วยความไม่ตั้งใจ เพราะหลังจากปฎิบัติภารกิจครั้งก่อนหน้าเสร็จ เขาปฎิเสธภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพราะตั้งใจจะไปพักผ่อนที่เกสต์เฮ้าส์ทางภาคเหนือของอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่เมื่อไปถึงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่บีบให้เขาต้องกลับมาปฎิบัติภารกิจให้กับบราโว่อีกครั้ง โดยเป็นการต่อสู้กับขบวนการค้าเสพติดที่มีกองกำลังติดอาวุธทำหน้าที่คล้ายกับบราโว่ด้วย

เนื่องจากเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้นอกจากจะมีการต่อสู้ในป่าแล้ว เล่มนี้ยังมีการถล่มกันด้วยอาวุธหนักในเขตเมืองเชียงใหม่ด้วย

สนุกและดำเนินเรื่องรวดเร็ว ไม่ทำให้แฟนแนวนี้ผิดหวังแน่นอน

แม่ลาวเลือด เล่ม ๒

 

แม่ลาวเลือด ๑ & ๒
ผู้เขียน : วสิษฐ เดชกุญชร
สำนักพิมพ์ : ประพันธ์สาส์น
ราคา : ๑๖๐ บาท (๒ เล่ม)

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘ : Gone Girl

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘ : ระวังหลัง

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘ : Offscreen

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘ : กับดักฆาตกร

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘ : แกล้ง

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘ : ลวง

หนังสือเล่มที่เจ็ดของปี ๒๕๕๘ : สารวัตรเถื่อน

รีวิวหนังสือ : สารวัตรเถื่อน – ปฐมบทชายร่างสูง ผิวคล้ำ

สารวัตรเถื่อน

เรื่องมันเริ่มมาจากการที่มีโอกาสได้ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือมาแป๊บนึง และในช่วงเวลาแป๊บนึงนั้นเองผมได้หนังสือมาสี่ห้าเล่ม สองเล่มในนั้นเป็นหนังสือในชุด ธนุส นิราลัย ชายร่างสูง ผิวคล้ำ ผลงานของคุณวสิษฐ เดชกุญชร คือ ประกาศิตอสูร กับอวสานสายลับ (สองเล่มนี้ต้องบอกว่า โคตรหนานะครับ แต่ละเล่มเกินหนึ่งพันหน้า ห้ามนอนอ่านเด็ดขาด หลุดมือตกใส่หน้านี่อาจบาดเจ็บได้)

พอกลับมาพลิกๆ จะอ่านอวสานสายลับ ซึ่งเป็นเล่มที่เรื่องราวเกิดขึ้นก่อนก็พบว่า ผมจำวีรกรรมที่ผ่านมาของชายร่างสูง ผิวคล้ำคนนี้ไม่ค่อยได้แล้ว เหตุที่อ่านทิ้งช่วงมานานมาก จริงๆ จะอ่านลุยไปเลยก็ได้เพราะคิดว่าเนื้อเรื่องคงไม่ได้มีการคาบเกี่ยวอะไรกันมากนัก แต่มาคิดอีกที ไหนๆ ก็ไหนๆ วะ กลับมาเริ่มตั้งแต่เล่มแรกแล้วจัดยาวๆ ไปเลยดีกว่า ก็เลยเป็นที่มาของการหยิบเอาสารวัตรเถื่อน ซึ่งเป็นผลงานเล่มแรกในชุด ธนุส นิราลัย มาอ่านใหม่อีกครั้ง

สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนิยายชุดนี้มาก่อน ถ้าจะให้อธิบายคร่าวๆ น่าจะประมาณว่า ถ้าอังกฤษมีเจมส์ บอนด์ ไทยก็มี ธนุส นิราลัย นี่ล่ะครับ ถ้าจะต่างกันก็คือ ธนุสไม่เพลย์บอยเหมือนบอนด์ และภารกิจส่วนใหญ่จะหนักไปทางจัดการกับขบวนการค้ายาเสพติด

สารวัตรเถื่อนเป็นเรื่องราวของขบวนการค้ายาเสพติดที่อำเภอวัฒนานิมิต จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นอำเภอที่ผู้เขียนสมมุติขึ้น ที่อำเภอนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้อิทธิพลของนักธุรกิจใหญ่ ผู้มีทั้งธุรกิจถูกกฎหมายและใต้ดิน ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากการทำธุรกิจทั้งสองประเภทมีการจัดสรรปันส่วนให้กับผู้มีอำนาจในเครื่องแบบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้อิทธิพลของนักธุรกิจผู้นี้ครอบคลุมทั้งอำเภออย่างสมบูรณ์

จนกระทั่งมีชายร่างสูง ผิวคล้ำ ปรากฎกายขึ้นที่นี่เพื่อรับตำแหน่งสารวัตรคนใหม่แทนคนเก่าที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สถานการณ์ถึงเริ่มเปลี่ยนไป คนอ่านจะได้ความมันส์จากการขับเคี่ยวกันระหว่างชายร่างสูง ผิวคล้ำ กับนักธุรกิจผิดกฎหมายชนิดที่ว่าถ้าเป็นหนังก็เป็นหนังแอกชั่น เร้าใจ ใส่กันตูม ตูม ตูม ขนาดนั้น

แล้วกว่าที่คนอ่านจะรู้จักชื่อจริงของชายร่างสูง ผิวคล้ำ ก็ตอนเกือบจะจบเรื่องแล้วนะครับ

ถ้าใครชอบแนวอาชญากรรม สายลับ สืบสวนสอบสวน เล่มนี้ไม่ผิดหวังครับ

ป.ล. สารวัตรเถื่อน เล่มนี้ขึ้นบนปกไว้ว่าเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๐ จำไม่ได้ว่าตอนนั้นกระดาษเป็นสีอะไรแต่ตอนนี้กลายเป็นสีน้ำตาลหมดแล้ว

 

สารวัตรเถื่อน
ผู้เขียน : วสิษฐ เดชกุญชร
สำนักพิมพ์ : มติชน
ราคา : ๗๐ บาท

 

ก่อนหน้าเล่มนี้อ่านอะไรไป… 

หนังสือเล่มแรกของปี ๒๕๕๘

หนังสือเล่มที่สองของปี ๒๕๕๘

หนังสือเล่มที่สามของปี ๒๕๕๘

หนังสือเล่มที่สี่ของปี ๒๕๕๘

หนังสือเล่มที่ห้าของปี ๒๕๕๘

หนังสือเล่มที่หกของปี ๒๕๕๘