จากปัญหาฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ ที่มาแรงมากเมื่อช่วงต้นปีก็เลยทำหน้าที่พ่อบ้านใจกล้ากดสั่งเครื่องฟอกอากาศในรถของ Xiaomi ไปหนึ่งตัวด้วยความหวังว่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้แม่พดด้วง (ซึ่งเป็นคนใช้รถเป็นหลัก) ในระหว่างขับรถไปไหนมาไหนได้บ้าง
เครื่องฟอกอากาศตัวนี้สั่งซื้อมาจากแอป JD Central ประสบการณ์สั่งซื้อไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ขอยังไม่เล่าละกัน แต่ตอนนี้ดูทรงแล้วไม่น่าจะใช้ซ้ำ สั้น ๆ แค่นี้ละกันนะ
จากกล่องที่ได้รับมา แกะออกมาประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ตามรูปข้างบนเลย
อ่ะ มาดูทีละชิ้นกัน ไอ้อันดำ ๆ ยาว ๆ นั่น ก็คือ ตัวเครื่องฟอกอากาศ (ได้ยิน ดำ ๆ ยาว ๆ แล้วโปรดอย่าคิดลึก)
แถวล่างขวาสุด เป็นที่สุดคู่มือ (ซึ่งเปิดคู่มือออกมาแล้วเป็นภาษาจีนล้วน เยสเข้!!)
ถัดเข้ามาเป็นกล่องใส่สายไฟเพื่อเสียบจากที่จุดบุหรี่ในรถไปที่ตัวเครื่อง
ถัดมาเป็นแผ่นคล้ายหนัง (ไม่รู้ว่าวัสดุเป็นอะไร) ด้านนึงมีโลโก้ MJ ซึ่งไม่ได้ย่อมาจาก Michael Jordan แต่เป็น MiJia ที่เป็นแบรนด์ย่อยสำหรับสินค้าในกลุ่ม smart home ของ xiaomi พลิกอีแผ่นนี่ไปด้านหลังจะเป็นช่องให้ร้อยสายได้มาพร้อมกระดุมแป๊ะ (จะเก็ตกะกุมั้ยเนี่ย 5555) แกะมาเจอก็งง ใช้ทำอะไรวะอีแผ่นนี้?
สุดท้ายคือ พลาสติกโค้ง ๆ แข็ง ๆ มีสายร้อยติดอยู่พร้อมตัวล็อก
หลังจากที่แกะทุกอย่างเรียบร้อย เปิดดูคู่มือ (ภาษาจีน) และใช้บริการ google lens เพื่อแปลจากภาษาจีนเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ก็จัดการประกอบตัวเครื่องกับพลาสติกตัวสุดท้ายนี่เข้าด้วยกัน ก่อนจะไปติดตั้งในรถ ซึ่งพอลองวางตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้ดูแล้ว จุดที่ลงตัวที่สุด (สำหรับเรา) ก็คือ ด้านหลังที่พิงศีรษะที่นั่งด้านหลังฝั่งคนขับ (งงมั้ยวะ พูดง่าย ๆ หลังที่พิงหัวของที่นั่งหลังคนขับอ่ะ)
พอรัดสายล็อกตัวเครื่องติดกับที่พิงศีรษะเรียบร้อยก็เอาอีแผ่นคล้ายหนังที่ได้มา (ซึ่งทีแรกไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรนั่นแหละ) มาปิดทับอีกทีเพื่อซ่อนสายให้เรียบร้อย ช่วยให้รถดูดีมีระดับขึ้นมาเลยทีเดียว แหม่…
จากนั้นก็เดินสายไฟที่ให้มาต่อจากตัวเครื่องฟอกอากาศไปที่ที่จุดบุหรี่ ตรงนี้ถ้าใครยังไม่ได้เสียบอะไรไว้กับที่จุดบุหรี่ก็ง่ายหน่อย แต่ของเรานี่ใช้ต่อกล้องเอาไว้แล้วก็เลยต้องไปซื้อตัวเพิ่มช่องที่จุดบุหรี่มาอีกอัน
ไอ้ตัวเพิ่มช่องจุดบุหรี่นี่ก่อนจะซื้อก็งงชิหาย ทีแรกกะจะกดซื้อออนไลน์ให้ส่งมา พอเปิดดูในเว็บกับตามแอปขายของ แม่มมีตั้งแต่หลักสิบยันหลักพัน แล้วไม่มีอะไรบอกเลยว่า ที่ราคาต่างกันขนาดนั้นเพราะอะไร เลยตัดสินใจไปแวะร้านขายอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไว้ใจได้ที่เคยใช้บริการกันมา ถามน้องมันจนพอรู้เรื่อง แล้วซื้อมาอันนึง ตามรูป
ติดตั้งเรียบร้อย ลองเปิดสวิตช์รถ เออ เครื่องทำงานแล้ว โอเค ก็จัดการซ่อนสายไฟไม่ให้รกหูรกตาแม่พดด้วง ทีนี้มาจัดการเรื่องแอปต่อ เปิด app store โหลดแอปชื่อว่า Mi Home (ตามภาพ) หรือใครขี้เกียจเสิร์ชจะยิง QR code จากคู่มือก็ได้นะ มันวิ่งไปได้เลย
กด install เรียบร้อย ตอนเลือก location ไม่มีประเทศไทย ก็ใส่ Singapore ตามที่แอปมันแนะนำไป ยังไม่มี account ของ Mi ก็สมัครซะ เสร็จแล้วทีนี้ก็ทำการลิ้งก์เครื่องฟอกอากาศเข้ากับแอปในมือถือเรา ตรงนี้มีทริกนิดหน่อย คือ เปิดแอปขึ้นมาเปลี่ยน region เป็น Mainland China ก่อนที่จะกด add device เพราะถ้าไม่เปลี่ยนเป็นจีน แอปมันจะหาไม่เจอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน วิธีนี้ก็เจอจากในเน็ตที่มีคนมาตอบเอาไว้
ลิ้งก์แอปได้แล้วก็ลองกดใช้งานดู ลองกดให้ทำงานแบบ auto เปลี่ยนเป็น manual กดเร่งกดเบาพัดลมได้ ปิดเป็น standby ก็โอเคใช้ได้เรียบร้อย จากในรูปเปิดขึ้นมาตอนแรกค่าอากาศจะเป็น Common ซึ่งมีขยายความบอกว่า ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ ๕๐ – ๑๐๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พอเปิดไปได้แป๊บนึงก็เปลี่ยนเป็น Good ซึ่งในข้อความบอกว่า ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ระหว่าง ๐ – ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แสดงว่า เครื่องสามารถใช้งานได้ผลอยู่ (ถ้ามันไม่โกหกนะ 5555) รู้สึกคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาเลยทีเดียว
นอกจากบอกค่าอากาศได้แล้ว แอปนี้ยังบอกค่าอื่น ๆ ได้อีก เช่น เราใช้เครื่องฟอกอากาศนี้มาเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว ระดับของไส้กรองอากาศอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์ (ตอนนี้อยู่ที่ ๑๐๐ และจะลดลงตามการใช้งานจนเหลือ ๐ ซึ่งก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนไส้กรองได้ – ถ้ามันไม่โกหกอีกแล้ว 5555) อะไรพวกนี้นะฮะ
สรุปสั้น ๆ จากที่ได้รับตัวเครื่องจนมาถึงขั้นตอนนี้ ติดตั้งไม่ยาก ลงแอปแล้วลิ้งก์กับตัวเครื่องมีขั้นตอนนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากอะไร การเปิด-ปิดใช้งานไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนผลการใช้งานคงต้องใช้ดูสักพักก่อนครับ