ครบรอบสี่ปีการเขียนบล็อก (รอบสอง)

เมื่อวานนี้สี่ปีที่แล้วกลับมาเขียนบล็อกอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไปหลายปี เริ่มด้วยโพสต์นี้ครับ

เชียงใหม่ เพื่อนเก่าที่ไม่คุ้นเคย

ตอนที่กลับมาเขียนไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากเขียนเก็บไว้ เป็นเรื่องที่อยากเล่า อยากแชร์ความคิดกับพับลิก (เรื่องที่ไม่อยากแชร์จะเขียนลงสมุดบันทึกเอา) เขียนอะไรที่เป็นลองฟอร์ม (เอาจริงก็ไม่ค่อยลองนะ 5555) ยาวกว่าสเตตัสในเฟซบุ๊ก แต่ไม่อยากเขียนไว้ในเฟซบุ๊กเพราะเฟซบุ๊กเป็นระบบปิด เกิดวันข้างหน้าแพล็ตฟอร์มเปลี่ยนจะลำบาก แถมยังเสิร์ชหายาก เขียนเป็นบล็อกจัดการง่ายกว่า แถมเวิร์ดเพรสก็คุ้นเคยดีอยู่เพราะใช้มาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนยุคที่บล็อกยังรุ่งเรืองไม่โดนโซเชียลเน็ตเวิร์กตีกระจุยขนาดนี้

ตอนนั้นเขียนบล็อกส่วนตัวเล่าเรื่องสัพเพเหระเรื่อยเปื่อย เรื่องงานบ้าง เรื่องพดด้วงบ้าง เอาเรื่องที่อ่านเจอมาเล่าต่อบ้าง อารมณ์เดียวกับที่ใช้เฟซบุ๊กตอนนี้ เขียน ๆ อยู่ก็เกิดมัน ทำเพิ่มอีกบล็อกเขียนเรื่องการเงินส่วนบุคคล (personal finance) วิธีออมเงิน เรื่องแบงก์ เรื่องดอกเบี้ย กองทุน เล่นหุ้น ฯลฯ เพราะตอนนั้นแบกหนี้อยู่บาน อินเนอร์แรง อยากเป็นอิสระทางการเงิน (โดยไม่ต้องขายตรง 5555) ไหน ๆ ก็ต้องหาข้อมูลอยู่แล้วก็เอามาเขียนบล็อกซะด้วยเลย ตอนนั้นฟิตมาก แล้วก็ข้อมูลเยอะ อาทิตย์นึงอัปหลายโพสต์อยู่ ทั้ง ๆ ที่มีคนเข้าบล็อกวันนึงไม่กี่สิบคน

แล้วจู่ ๆ วันนึงเปิดบล็อกเช็คยอดก็ตกใจ เฮ้ย!! มาจากไหน ๗๐๐ กว่า ปรากฏว่ามีคนเอาลิ้งก์ไปโพสต์ในพันทิป คนก็คลิกมาจากพันทิปเพียบเลย (ทำให้ได้รู้ถึงอานุภาพของพันทิป) หลังจากนั้นยอดก็ซาลง แต่เฉลี่ยก็เยอะกว่าช่วงแรกเยอะอยู่

หลังจากเขียนอยู่หลายปี พอดีเปลี่ยนงาน หน้าที่การงานเพิ่มขึ้น ความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น การเขียนบล็อกก็ซาลง จนที่สุดก็หยุดเขียนไปทั้งสองบล็อก

ในส่วนของบล็อกการเงิน เป็นบล็อกที่ปกปิดตัวตน ใช้นามปากกา ไม่เคยบอกใคร ถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยบอกใคร (แต่มีโป๊ะแตกมีคนจับได้สองคน ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่น่าจะได้อ่านสเตตัสนี้) เพราะซัดสถาบันการเงินไว้เยอะ 5555 แล้วก็มีเรื่องที่ภูมิใจอยู่อย่างนึง (จะว่าขี้อวดก็ยอมรับนะ) ก็คือ มีคีย์เวิร์ดเฉพาะอยู่คำนึงที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในกูเกิ้ล ถ้าใครเสิร์ชคำนี้บล็อกนี้จะขึ้นเป็นอันดับแรก อยู่เหนือเว็บดี ๆ เว็บมีภูมิ มีราคาทั้งมวล

ตอนที่กลับมาเขียนบล็อกอีกทีเมื่อสี่ปีที่แล้วก็ไม่ได้คิด ไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะต้องมีคนอ่านมากน้อยแค่ไหนยังไง คิดแค่ว่า เขียนให้ตัวเองอ่าน อย่างน้อยก็ได้บันทึกความคิดของตัวเองในวันนี้เก็บไว้ ได้ฝึกมือ ฝึกเขียนเล่าเรื่องผ่านสื่อที่เปลี่ยนไปจากสิ่งพิมพ์ที่คุ้นเคย แล้วก็ไม่ได้คิดว่าต้องเขียนให้ดูหล่อ ดูฉลาด เพราะต่อให้พยายามให้ตายแม่มก็ได้แค่นี้

ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเชื่อว่า Winter แม่มต้อง coming แน่ ๆ จนปีที่แล้วต่อเนื่องมาปีนี้ที่มาแล้วจริง ๆ มาเป็นพายุหิมะแถมแผ่นดินถล่มเลยด้วย นิตยสารหลายเล่มหายไป พื้นที่นำเสนองานดี ๆ น่าสนใจก็หายไป แต่เชื่อว่าคนทำงานหลายคนที่มีฝีมือ มีของ น่าจะเอาตัวรอดได้ ไม่ว่าจะในพื้นที่สื่อประเภทเดิม หรือสื่อใหม่ที่คนทำงานอาจต้องปรับตัวบ้าง ซึ่งจะว่าไป อย่าว่าแต่คนทำสื่อเลย ในโลกการทำงานปัจจุบันนี้ใครบ้างที่ไม่ต้องปรับตัว

Only the paranoid survive… จริงมั้ย?

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: