ผมเป็นคนที่ติดว่าจะต้องมีสมุดบันทึกกับปากกาอยู่ใกล้ตัว เผื่อว่าจู่ ๆ เกิดนึกอะไรขึ้นมาได้จะได้จดเก็บไว้ได้ทันก่อนที่จะลืม ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยได้ใช้อะไรเท่าไหร่หรอก เพราะช่วงหลังนี่มีสมาร์ตโฟนติดตัวก็ใช้แอปในโทรศัพท์นั่นแหละ เร็วดี แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่เหมาะกับสมุดบันทึกมากกว่า หรือให้ความรู้สึกดีกว่า ตามประสาคนเกิดในยุคอนาล็อก
นอกจากการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นหรือความคิดในแต่ละวันในลักษณะของ journal แล้ว อีกอย่างนึงที่จดลงสมุดบันทึกก็คือ กิจกรรมที่ตั้งใจจะทำ (เขียนอย่างนี้ไม่ค่อยตรงนะ จริง ๆ มันคือ habits tracker อ่ะ)
คอนเซ็ปต์ไอเดียของ habits tracker นี่ไม่มีอะไรมาก ปกติแต่ละคนจะมีเรื่องที่เราตั้งใจว่าอยากจะทำอยู่ใช่มะ อย่างหลายคนพอขึ้นปีใหม่ทีก็มาเลย นิวเยียร์เรสโซลูชั่นของฉันปีนี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ลดน้ำอัดลม บลา บลา บลา วันแรก ๆ ก็ได้อยู่หรอก พอผ่านไปอาทิตย์นึงก็เหลวเป๋ว เพราะหมดไฟ ทีนี้จะทำไง
ในทางจิตวิทยาเขาบอกว่า การตั้งใจทำอะไรเนี่ยถ้าคิดอย่างเดียวมันไม่หนักแน่นมั่นคงพอนะ ถ้าจะเพิ่มขึ้นมาอีกนิดก็ให้เขียนลงไป มันเหมือนกับว่า ในขณะที่เขียนเนี่ย สมองต้องสั่งการไปที่มือ ระหว่างที่มือเขียนเป็นตัวหนังสือมันก็จะย้อนกลับไปสร้างการประทับรับรู้บางอย่างที่สมองของเราไปด้วย ทำให้เราจดจำมันได้ดีขึ้น (อันนี้อย่าถามเพิ่ม พี่ขอ) นี่เป็นสเต็ปแรก ซึ่งก็ได้ผลระดับนึงล่ะ
ทีนี้ถ้าอยากกระตุ้นตัวเองมากขึ้นไปอีก เขาบอกว่า ให้ทำตารางเอาไว้ วันไหนทำได้ตามที่ตั้งใจก็ติ๊กไว้ วันไหนไม่ได้ทำก็ว่างไป การทำอย่างนี้มันจะช่วยแปลงการลงมือทำของเราเป็นภาพ (visualization) ออกมาได้ ก็จะช่วยได้มากขึ้น เพราะจะทำให้เห็นเลยว่า ไอ้ที่เราตั้งใจไว้น่ะ จริง ๆ แล้วเราทำได้ขนาดไหน เช่น ตั้งใจว่าฉันจะวิ่งอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๓ วัน พอมาดูตาราง อ้าว ชิบหาย อาทิตย์นี้วิ่งได้แค่วันเดียวงี้ แล้วที่สำคัญ ห้ามโกง อย่าหลอกตัวเอง อารมณ์แบบ เฮ้ย อาทิตย์นี้ไม่ได้อ่านหนังสือเลย งั้นหยิบมาพลิก ๆ ทำท่าเหมือนอ่านซักหน้าสองหน้าจะได้ไปติ๊กตารางได้ อย่างนี้ไม่ดี หลอกใครก็อาจจะหลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้นาจา
ในทางจิตวิทยาเขายังบอกอีกว่า สำหรับบางคน (พวกที่มี motivate เยอะ ๆ ซึ่งไม่ใช่ผม) พอเห็นที่ติ๊กเอาไว้แล้วมันจะเกิดลูกฮึด อยากให้มีติ๊กเยอะ ๆ ติ๊กติด ๆ กัน ติ๊กทุกวันงี้ มันก็จะเกิดแรงขับเอาชนะความขี้เกียจให้ลุกขึ้นมาทำได้ จนกระทั่งสุดท้ายจะติดเป็นนิสัย สามารถลุกมาทำได้เองไม่ว่าจะมีติ๊กหรือไม่มีติ๊กมาบังคับ ซึ่งถ้าใครมาถึงขั้นนี้ได้ถือว่าเป็นความสำเร็จในระดับถล่มทลายแกรนด์แสลม ประหนึ่งลีโอนาโดได้ออสการ์
ที่เล่ามานั่นคือหลักการ ส่วนลูกเล่นหรือเทคนิคที่ใครจะไปปรับแต่งยังไง หรือจะตกแต่งให้สวยงามตามสไตล์อันนี้ก็สุดแท้แต่นะฮะ
ถ้าใครอ่านแล้วสนใจจะทำบ้างแต่นึกภาพไม่ออก ขออนุญาตแปะรูปตารางของตัวเองให้ดู เป็นของเดือนมกราคมที่ผ่านมา บางรายการทำได้ดีมาก คือ อ่านหนังสือ (อันนี้นับเฉพาะที่อ่านหนังสือเป็นกระดาษ ไม่นับพวกบทความในเน็ต) สามารถอ่านได้เกือบทุกวัน และเป็นสาเหตุที่ทำให้อ่าน everything store ได้จบเล่มตามที่ตั้งใจไว้ บางรายการก็ยังทำได้น้อย อย่างเขียนบล็อก พอเปิดมาดูเห็นแบบนี้มันก็จะเกิดอารมณ์ประมาณ เฮ้ย ไม่ได้ ไม่ได้ อย่าขี้เกียจ อะไรประมาณนี้
ใครมีเทคนิคอะไรเพิ่มเติมในเรื่องนี้ หรือมีเรื่องอื่นที่ใช้จดลงในสมุดบันทึกก็เอามาแชร์กันบ้างนะฮะ…