วิกฤติสื่อสิ่งพิมพ์ครั้งนี้หนักกว่า “ต้มยำกุ้ง”

จากกรณี Winter is coming ที่ค่ายสื่อยักษ์ใหญ่บางแห่ง และยักษ์เล็กที่ไม่เป็นข่าวอีกหลายแห่ง (อ่านเรื่องค่ายสื่อยักษ์ใหญ่ได้ ที่นี่) ความเห็นส่วนตัวคิดว่านี่เป็นวิกฤติสื่อสิ่งพิมพ์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งถัดจากเมื่อครั้ง “ต้มยำกุ้ง”

และขอฟันธงว่า วิกฤติครั้งนี้หนักหนาและสาหัสกว่าเมื่อครั้งต้มยำกุ้งอย่างมาก

ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?

ในฐานะคนทำสื่อสิ่งพิมพ์ที่เคยผ่าน “ต้มยำกุ้ง” มาต้องบอกว่าสถานการณ์วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น ในครั้งนั้นเป็นการเจ๊งที่คนทั่วประเทศรู้ว่าเจ๊ง และก็เจ๊งกันเกือบหมดทั่วทุกวงการ มันก็เลยไม่มีเม็ดเงินมาลงโฆษณา (ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของวงการสิ่งพิมพ์)

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ฟื้นได้เร็วที่สุด และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นธุรกิจก็กลับมาโฆษณากันอีกครั้ง และทุ่มเงินโฆษณากันก้อนใหญ่เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่หายไป สิ่งพิมพ์รายไหนที่ “อึด” พอที่จะอยู่ถึงวันนั้นก็รอด

แต่วิกฤติครั้งนี้ เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องรอง สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนอ่านและภาคธุรกิจ (หรือแบรนด์) ที่ลงโฆษณา

ในส่วนของคนอ่านหันไปรับสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้ยอดคนอ่านสิ่งพิมพ์ลดลง ในขณะเดียวกันแบรนด์ต่าง ๆ ที่เคยลงโฆษณาและอึดอัดขัดใจกับความไร้ประสิทธิภาพของสื่อสิ่งพิมพ์ (ไม่ว่าจะเรื่องยอดพิมพ์ที่เคลมเกินจริง การที่วัดผลไม่ได้ เก็บข้อมูลคนอ่านก็ไม่ได้ ฯลฯ) ก็มีทางเลือกใหม่ คือ สื่อออนไลน์ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า สามารถตอบโจทย์และวัดผลได้จริง แถมยังเก็บข้อมูลคนเห็นโฆษณาได้อีก

สิ่งเหล่านี้ทำให้เม็ดเงินโฆษณาหันเหจากสื่อสิ่งพิมพ์ไปทุกที และคาดเดาได้ไม่ยากว่า แม้เศรษฐกิจจะกลับมาเฟื่องฟูได้อีก แต่สื่อสิ่งพิมพ์ก็คงไม่สามารถกลับมารุ่งเรืองได้เหมือนเดิม

เหตุการณ์ Winter is coming ในครั้งนี้จึงน่าจะเป็นหนาวที่ยาวนานสำหรับคนในวงการสิ่งพิมพ์นะฮะ…

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: