ประสบการณ์ไป ‘ดูที่’ ครั้งสอง

ที่นา

อย่างที่ได้เคยเล่าไปก่อนหน้านี้ (อันนี้ครับ ประสบการณ์ไป “ดูที่” ครั้งแรก) ว่า ผมตั้งเป้าจะใช้ชีวิตหลังเลิกทำงานอยู่บ้านที่มีพื้นที่มีบริเวณซักหน่อย จะได้เอาไว้ปลูกโน่นปลูกนี่ มีที่ให้หมาวิ่งเล่น ซึ่งหลังจากที่ได้ไปดูที่ครั้งแรกแล้วไม่ลงตัวก็ยังนิ่งๆ อยู่ ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมาก (อันนี้คือไม่ได้สโลว์ไลฟ์นะฮะ แต่เป็นอารมณ์ขี้เกียจมากกว่า)

จนกระทั่งเมื่อซักเดือนที่ผ่านมา คนรู้จักคนเดิมที่พาไปดูที่งวดที่แล้วก็บอกมาอีกว่า มีที่อีกแปลงที่เจ้าของจะขาย หลังจากสอบถามข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็น่าสนใจอยู่ เพราะขนาดพื้นที่กำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป อยู่บริเวณใกล้ๆ กับแปลงที่เคยไปดูครั้งที่แล้วนั่นแหละ แต่แปลงนี้เป็นที่นาไม่ใช่ไร่อ้อย ก็ตกลงนัดวันไปดูกัน

ก็เหมือนงวดที่แล้วนะครับ ไปดูที่ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้หาความรู้อะไรไปเลย ไปมันแบบคนดูไม่เป็นนั่นแหละ ใช้ความรู้สึกนำ เพียงแต่ก่อนออกจากบ้านก็ไหว้พระที่บ้าน อธิษฐานว่า ถ้าที่นี้ดี ลูกไปอยู่แล้วจะมีความสุขความเจริญก็ขอให้การซื้อขายสำเร็จด้วยดี แต่ถ้าไม่ดีก็ขอให้มีเหตุอะไรก็แล้วแต่ทำให้การซื้อขายไม่สำเร็จ นี่ขอพระท่านไปแบบนี้

เราเข้าไปดูที่กันเองโดยไม่ได้นัดเจ้าของที่เข้าไปด้วย เพราะคนที่พาไปเขาคนแถวนั้นอยู่แล้ว แล้วที่ที่จะไปดูก็ไม่ได้กั้นรั้วหรืออาณาบริเวณอะไร

ระหว่างทางที่เข้าไปช่วงแรกๆ ก็ชิลๆ เพราะคุ้นเคยมาจากครั้งที่แล้ว แต่พอพ้นจากแปลงครั้งที่แล้วไปก็เริ่มกังวลหน่อยๆ เพราะทางเข้าไปเป็นทางแคบๆ รถวิ่งสวนกันลำบากและก็ยังไม่ได้ลาดยางหรือเป็นคอนกรีต แถมสองข้างทางเป็นไร่อ้อยสูงท่วมหัวมองไปซ้ายขวาไม่เห็นอะไร นี่ถ้ามากันเองอาจจะถอดใจหันหลังกลับกันแล้ว

ถนนชนบท

ถนนเส้นที่ว่า ทั้งซ้ายทั้งขวาเป็นไร่อ้อยสูงท่วมหัว

เราเดินหน้ามาจนถึงบริเวณที่ที่จะขาย แต่คนที่พามาก็ยังไม่แน่ใจว่าแปลงไหนแน่ กำลังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ก็พอดีคุณลุงคุณป้าเจ้าของที่แถวนั้นเดินออกมาถาม พอรู้ว่าเรามาทำไม แกก็พาเดินไปดู เพราะที่ที่มาดูก็อยู่ด้านหลังที่ของแกนั่นแหละ

ที่แปลงนี้ไม่ติดถนนแต่เจ้าของที่ขอแบ่งซื้อที่ของคุณลุงคุณป้าทำเป็นทางเข้าไป เดินเข้าไปถึงก็เป็นที่นา รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสวยเลย ตอนที่ไปดูนี่เกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้วก็เลยไม่มีอะไร คุณลุงคุณป้าชี้ให้เราดูว่า ที่แปลงนี้มันจากไหนถึงไหน โน่นนี่นั่น ยืนคุยกันอยู่นาน ถูกคอถึงขนาดแกชวนเข้าไปนั่งคุยในที่ของแก (แกคงเหงาด้วยแหละ วันๆ ไม่น่าจะมีคนแปลกหน้าเข้ามาซักเท่าไหร่)

ชีวิตชนบท

คุยติดพันจนต้องเข้าไปคุยกันต่อในที่คุณลุงคุณป้า

ระหว่างที่นั่งคุยก็เก็บบรรยากาศไปด้วย อากาศดี เงียบ สงบ (แน่ล่ะมึง เข้ามาซะขนาดนี้) มีลมพัดมาเป็นระยะ คุณลุงคุณป้าอัธยาศัยดี นี่ก็ต้องดู เพราะเผื่อจะได้มาเป็นเพื่อนบ้านกัน ถามแกเรื่องน้ำ-ไฟ ก็มีมาถึงทั้งสองอย่าง ส่วนโทรศัพท์คงไม่ต้องหวัง ถ้าจะใช้เน็ตคงต้องพึ่งโมบายล์อย่างเดียว คุยกันอยู่ร่วมชั่วโมงเราก็ลาไปบ้านเจ้าของที่

ไปถึงบ้านเจ้าของที่ หลังจากทักทายถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเรียบร้อย ก็เข้าสู่การเจรจาล่ะทีนี้ ขั้นตอนนี้เราให้คนที่พามาเป็นคนช่วยเจรจาให้ เพราะเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แถมยังเป็นคนในพื้นที่ คุยกันนานมากกกกกก ไม่ได้อะไรหรอก มันนานตรงต่อราคานี่แหละ เขาบอกราคามา เราก็ต่อ ต่อแล้วยังไม่ให้ ก็ลากไปเรื่องอื่นก่อน เปลี่ยนเรื่องไปให้เพลินๆ แล้วกลับมาใหม่ ก็ยังไม่ได้อีก ก็เปลี่ยนเรื่องอีก คุยกันจนไปถึงเรื่องลูกเรื่องญาติ ลูกใครเดี๋ยวนี้ทำมาหากินอะไร อยู่ที่ไหน ใครเจ็บใครป่วยเป็นอะไร ขนาดนั้น

ต่อรองกันอย่างนี้อยู่สองชั่วโมง สุดท้ายตกลงกันได้เป็นที่พอใจ ก็สรุปนัดวันไปโอนที่กัน นัดกันแต่เช้าเพราะต้องไปไถ่จำนองจากธกส.ก่อนแล้วถึงไปโอนที่สำนักงานที่ดิน นัดเรียบร้อยให้เบอร์กันไว้เสร็จ เราก็กลับบ้าน

กลับมาถึงบ้าน เพื่อความแน่ใจเราก็เช็กข้อมูลเพิ่มว่า ไอ้ที่เราคิดเอาไว้น่ะมันโอเคมั้ย มีอะไรที่เราเข้าใจผิดไปบ้างหรือเปล่า ก็หาจากเน็ตแล้วก็ถามจากคนรู้จักรอบตัว ระหว่างนั้นเราก็เตรียมเรื่องเงินไปด้วย

ผ่านไปสองวัน หลังจากที่เช็กข้อมูลมาแล้ว ประกอบกับใจเริ่มนิ่งๆ มีเวลาคิดมากขึ้น เราได้ข้อสรุปว่า ที่แปลงนี้มีบางอย่างที่ไม่ตรงกับความต้องการของเราเสียทีเดียว จะซื้อก็ได้ แต่สุดท้ายอาจจะเป็นเรื่องวุ่นวายบานปลายภายหลัง เราก็มาคิดว่า ชีวิตเราตอนนี้พยายามให้เรียบง่าย ลดเรื่องวุ่นวายในชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด แล้วที่แปลงนี้มองไปวันข้างหน้าก็อาจจะต้องวุ่นวายทำโน่นทำนี่ จะมาหาเรื่องเข้าตัวทำไม (วะ) แสดงว่าที่แปลงนี้ยังไม่ใช่ รอดูแปลงใหม่ก็แล้วกัน คิดได้อย่างนี้ก็รีบโทรไปบอกเจ้าของที่

พี่เจ้าของที่บอกว่า กำลังจะโทรมาหาอยู่พอดี เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ฟังสิ่งที่พี่เขาเล่าเราก็อึ้งไปเล็กน้อย เขาขอบคุณเราที่รีบโทรไปบอก เราก็ขอบคุณเขาที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ก็จบกันไปด้วยดี

นี่ฟาวล์มาสองหนแล้วนะ แต่ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะไม่รีบ คิดว่าได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละวะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: