จัดของครับ งานนี้ของน้อย แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ยาดมครับ 5555
มาครับ ประสบการณ์ลงงานวิ่งเทรลครั้งล่าสุด ดงมะไฟเทรล ๒๐๑๙ ระยะ ๔๔ กิโลเมตร ที่บ้านดงมะไฟ อำเภอสีคิ้ว นครราชสีมา ขับรถไปไกลที่สุดและนานที่สุดตั้งแต่ลงงานวิ่งมา เจอรถติดจากการก่อสร้างระหว่างทางเป็นระยะ ไปห้าชั่วโมงกว่า กลับอีกห้าชั่วโมง แต่ที่ลงสมัครงานนี้เพราะเห็นว่าเป็นงานชุมชน รายได้หักค่าใช้จ่ายจะเอาไปลงในชุมชน
ก่อนสมัครก็เช็กฟีดแบ็กงานปีก่อน ที่ชมก็มี แต่ที่ติกันก็เรื่องเดียวเลยคือ เส้นทางวิ่งหลังออกจากจุดสตาร์ตที่เป็น single track ขึ้นเขาทำให้เสียเวลาต้องรอกันเป็นชั่วโมง ซึ่งทางผู้จัดก็ออกมาบอกว่า ปีนี้เปลี่ยนเส้นทางใหม่แล้ว ไม่เจอรถติด (จริง ๆ คือ คนติด) แน่นอน เอา ลองดู
กราฟความสูงของเส้นทางและแผนการวิ่งที่ทำไว้เผื่อหนีคัตออฟ
ตอนที่กราฟความสูงของเส้นทางออกมานี่เล่นเอาร้องซี้ด สตาร์ตเสร็จพี่ให้ดาวน์ฮิลกันยาว ๆ สิบโล ก่อนจะสลับขึ้นลงเนิน (แบบนี้เรียก เนิน ใช่มั้ย 5555) แล้วขึ้นกันยาว ๆ ตั้งแต่โลที่ ๒๐ แล้วไปชันชิ_หายวายป่วงกันที่โล ๔๐ จนถึงเส้นชัย
เรียกว่า นวดมาแล้ว ๔๐ โล แล้วมารีดให้หมดที่สี่โลสุดท้ายครับพี่น้องครับ
งานนี้สรุปกันเป็นข้อดีกว่า เอาข้อดีก่อน
๑. เส้นทางดี มีครบ อัปฮิล ดาวน์ฮิล เข้าป่า ทางโล่ง ปิ้งย่าง ไม่ยากเกินไป ไม่อันตราย แต่ก็ไม่ง่าย วิ่งกำลังสนุก
๒. อากาศดีมาก ตอนเข้าจุดให้น้ำที่โลที่ห้า อากาศเย็นจนควันออกปาก ทีแรกไม่แน่ใจ ต้องลองใหม่ เฮ้ย ใช่จริง ๆ
๓. น้ำท่าบริบูรณ์ดี เครื่องดื่มเกลือแร่มีเพียบ ไปงานอื่นสเปรย์ขาดแต่งานนี้สเปรย์เยอะมาก และที่เจอเป็นครั้งแรกในงานวิ่งคือ อ็อกซิเจนกระป๋องครับ วิ่งมาเหนื่อย ๆ สูดปื้ดยาว ๆ อาห์…
๔. พี่ป้าน้าอาในชุมชนอัธยาศัยดี เข้ามามีส่วนร่วมในงานพอสมควร
ทีนี้มาว่าเรื่องที่ควรปรับปรุงกันบ้าง
๑. เรื่องแรกเรื่องใหญ่สุด หลงกันเช็ดเม็ดครับพี่น้องครับ ระยะอื่นไม่รู้ แต่ ๔๔ นี่หลงกันชิ_หาย เนื่องจากริบบิ้นบอกทางติดห่างกันเยอะ แถมไม่สะท้อนแสงด้วย วิ่งมามืด ๆ ไม่เห็นครับ
อีกอย่างคือ บอกทางด้วยการพ่นสีสเปรย์บนก้อนหินบ้าง บนพื้นถนนบ้าง ซึ่งปกตินักวิ่งจะดูทางจากริบบิ้น ไม่ก้มหน้าดูพื้นกัน แต่โชคดีที่พี่ไม่หลง ไม่ใช่เก่งหรืออะไร วิ่งช้าครับ ตามรอยชาวบ้านแม่งไป รอด!! 5555
๒. ที่พักมีน้อย บริเวณงานมีพื้นที่ให้กางเต๊นต์นอนได้กับพักโฮมสเตย์ของชาวบ้าน แต่เราไม่ถนัดทั้งสองทาง ก็เลยไปพักห่างจุดจัดงานไป ๓๐ โลโน่น
แล้วงานนี้สตาร์ตตีสี่ ต้องตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งกว่า ๆ กะเวลาให้อาบน้ำเตรียมของเสร็จขับรถมาถึงงานประมาณตีสาม จะได้ไม่วุ่นวายเรื่องหาที่จอดรถ ซึ่งระหว่างทางที่ขับมาแม่งอย่างมืด แม่พดด้วงมาบอกตอนมาถึงที่งานแล้วว่า ถ้าระหว่างทางมีใครมาโบกให้จอดจะไม่ให้จอดเด็ดขาด กลัวโดนดักปล้น!! 5555
๓. ในขณะที่น้ำท่าบริบูรณ์ดีตามข้อดีข้อ ๓ แต่แม่งไม่เย็นครับ วิ่งมาเหนื่อย ๆ เจอจุดให้น้ำเราก็อยากได้น้ำเย็นให้สดชื่นหน่อย แหม่ ไม่เย็นซะนี่
๔. ต่อเนื่องจากข้อ ๓ นอกจากน้ำท่าจะไม่เย็นแล้ว ผลไม้พวกแตงโม กล้วย สับปะรดอะไรก็ไม่มีให้เลย ขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรก็ไม่มี นักวิ่งต้องพึ่งตัวเองล้วน ๆ ยังดีที่มีข้าวเหนียวหมูทอดให้ตรงกิโลฯ ที่ ๑๘ ที่เป็นจุดใหญ่
๕. ไม่เห็นทีมแพทย์พยาบาลเลยนะ ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า ซึ่งก็โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรที่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์
ใครสนใจอยากลองไปปีหน้า ลองดูละกันว่า ข้อดีกับข้อควรปรับปรุงที่เล่ามามีอันไหนที่โอเค อันไหนที่ซีเรียส ซึ่งจริง ๆ ก็น่าเสียดาย เพราะสนามสวยมากและข้อควรปรับปรุงที่ว่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องของการจัดการที่แก้ไขได้ อยากให้แก้ไขจริงจัง เพราะเชื่อว่าสนามเส้นทางแบบนี้ไปต่อได้แน่นอน
สู้ ๆ นะ…